ใครๆ ก็อยาก "เป็นเจ้าของกิจการ" เจ้าของร้าน หรือมีธุรกิจเล็กๆ ได้เป็นนายตัวเอง เเต่คุณเคยสงสัยไหมว่าคุณควรให้เงินเดือนตัวเองเท่าไหร่?

ควรให้ตามใจตัวเองรึเปล่า?

ถ้าสมมติว่าธุรกิจเรามีกำไร 1 แสน มันถือว่าเป็นเงินเดือนของเราได้ไหม แล้วถ้าใช้เงิน 1 แสนนี้ไปกับค่าใช้จ่ายในบ้านหรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมดจะเป็นยังไง?

คำตอบก็คือ เจ๊งครับ!

ถ้าคุณไม่ได้แยกเงินส่วนของธุรกิจของคุณ กับเงินส่วนตัวของคุณออกจากกัน ลองนึกภาพว่า ถ้าคุณใช้เงิน 1 แสนที่เป็นกำไรของธุรกิจไปกับค่าใช้จ่ายในบ้าน เอาไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง ไปใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจการเลย ใช้จนเกือบหมด แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปหมุนในกิจการ

สุดท้ายก็วนมาคำตอบข้างบนคือ เจ๊งครับ

วิธีแยกเงินทั้ง 2 ก้อนนั้นง่ายมากครับและเป็นวิธีที่เจ้าของธุรกิจทุกคนต้องทำครับ ย้ำครับว่าต้องทำ! นั่นก็คือ การทำงบขึ้นมาสองงบครับ แยกเป็น งบกำไรขาดทุน ที่เป็นการบันทึกรายได้ของกิจการและรายจ่ายที่เป็นต้นทุนเพื่อดูว่ากิจการของคุณมีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ และงบรายรับรายจ่ายที่เป็นการบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนตัวครับ

การทำงบทั้งสองงบนี้ จะช่วยทำให้คุณสามารถแยกเงินออกจากกันได้ง่าย เพราะคุณจะเห็นภาพมากขึ้น ภาพแรกก็คือเงินได้จากธุรกิจไม่ว่าจะเป็นกำไรหรือขาดทุน ภาพที่สองเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว พอได้เห็นทั้งสองภาพนี้แล้วก็ต้องคำนึงอีก 2 ข้อนะครับ คือ

1. กิจการต้องมีเงินหมุนให้พอกับต้นทุนในเดือนถัดๆ ไป
2. คุณต้องใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม

เมื่อคุณเห็นภาพชัดเจนเเล้ว คุณก็จะสามารถแบ่งเงินเดือนให้กับตัวเองได้ง่ายขึ้นครับ เช่น เจนนี่เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านมีต้นทุนต่อเดือน 100,000 บาท และขายได้เดือนละ 300,000 บาท แบบนี้เมื่อทำงบกำไรขาดทุนก็จะมีกำไร 200,000 บาท

แล้วเจนนี่ก็ไปทำงบรายรับรายจ่ายของตัวเอง ปรากฎว่ามีเงินที่ต้องใช้ต่อเดือนประมาณ 50,000 บาท ถ้าอย่างนั้นเจนนี่ควรให้เงินเดือนตัวเองเท่าไหร่ดีครับ?

ข้อแรก : ก็คือต้องเอาเงินที่เป็นกำไร 2 แสนนี้มาแบ่งให้ร้านก๋วยเตี๋ยว อย่างน้อยที่สุด ก็คือให้เท่ากับต้นทุนของร้าน ก็คือ 100,000 บาท และถ้าจะให้ดีก็ควรแบ่งเผื่อไว้อีกหน่อย

ข้อที่สอง : ก็คือแบ่งให้ตัวเอง เป็นค่าใช้จ่าย 50,000 บาท และเก็บออมอีกสัก 30,000 บาท

แบบนี้เงินเดือนของเจนนี่ก็อาจจะประมาณ 80,000 บาท และเงินที่กลับเข้าไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวก็จะเป็น 120,000 บาท

เพราะฉะนั้นการแบ่งเงินเดือนของเจ้าของกิจการที่สำคัญที่สุด คือ การทำงบกำไรขาดทุนสำหรับกิจการ และทำงบรายรับรายจ่ายสำหรับตัวเอง แต่อย่าลืมว่าการทำงบกำไรขาดทุนของกิจการไม่ใช่การทำแบบเดือนต่อเดือน แต่เป็นการทำงบล่วงหน้า เพื่อจะสามารถมองภาพในอนาคตของกิจการและวางแผนจัดการต่อได้ครับ

การ "เป็นเจ้าของกิจการ" ที่มีการทำกำไรมาก แต่ไม่แบ่งเงินส่วนตัวออกจากธุรกิจ หรือแบ่งอย่างไม่เหมาะสม มันอาจจะทำให้เกิดปัญหาคาราคาซังในอนาคตได้นะครับ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ขอให้เริ่มทำงบสองตัวนี้ก่อนจะดีที่สุดครับ หรือสำหรับใครที่เริ่มไปแล้วต้องทำงบทั้งสองงบนี้ทันทีครับ