เราได้ยินคำว่า Gen Z กันอยู่บ่อย ๆ (คนที่เกิดช่วงปี 1996-2012) และบางทีอาจจะเคยได้ยิน Gen Alpha มาบ้าง (คนที่เกิดหลัง 2013 เป็นต้นมา) ตอนนี้มารู้จัก Gen Zalpha กันดีกว่า

ดูจากชื่อก็พอจะเดากันได้ครับว่า Zalpha นั้นเป็นคำผสมระหว่าง Z + Alpha ที่อธิบายหรือกลุ่มประชากรที่รวมกันระหว่างสองยุคสมัย (ต่างจาก Zillennials ที่เป็นประชากรกลุ่มเล็ก ๆ ที่เกิดปี 1990-2000 แทรกระหว่าง Gen Z กับ Millenials นะครับ)

ซึ่งคนในกลุ่มนี้จะเป็นคนหนุ่มสาวที่เชี่ยวชาญเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ต เติบโตมากับโลกออนไลน์ และตอนนี้ธุรกิจในตลาดกำลังให้ความสนใจประชากรกลุ่มนี้ ไม่เพียงแค่การจับจ่ายใช้สอยของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นความสามารถในการทำงานของคนกลุ่มนี้ด้วย

คำว่า “Zalpha” นั้นถูกใช้สำหรับประชากรที่เกิดหลังจากปี 1996 นั่นหมายความว่า Gen Z ทั้งหมด และ Gen Alpha ที่เกิดระหว่าง 2013 - 2025 ซึ่งกลุ่มหลังจะเป็นรุ่นแรกของประชากรโลกที่เกิดหลังปี 2000 ทั้งหมดเลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเป็น Gen Alpha เพราะเป็นตัวอักษรแรกของภาษากรีกนั่นเอง

ไม่มีใครทราบถึงที่มาของคำว่า “Zalpha” แต่มันเริ่มได้รับความนิยมหลังจากที่ คริสทิน แพทริก (Kristin Patrick) หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Claire’s (ร้านค้าปลีกเครื่องประดับ เครื่องประดับ และของเล่นสัญชาติอเมริกันที่เป้าหมายคือกลุ่มวัยรุ่น) ได้พูดเอาไว้ในสื่อ The New York Times ถึงกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้สำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกเขานั่นเอง

คนในกลุ่ม Zalpha และโดยเฉพาะ Alpha นั้นส่วนใหญ่เป็นลูกของชาว Millenials ที่เติบโตมาบนโลกออนไลน์อย่างแท้จริง ส่วนใหญ่แล้วยังเป็นเด็ก (Gen Alpha ที่โตสุดก็แค่ 10 ขวบ) เพราะฉะนั้นธุรกิจเวลาจะขายของให้เด็กก็จะระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ทำให้มันโจ่งแจ้งเพราะจะมีปัญหากับพ่อแม่ได้

เจซี สคูล่าร์​ (Jacee Scoular) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและการสื่อสารแบรนด์ของ Hollister และแบรนด์ในเครืออย่าง Gilly Hicks และ Social Tourist บอกกับสื่อ AdAge ว่า

“ไฟล์อีเมลและระบบสะสมแต้มของเรานั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองเพราะฉะนั้นเราจะไม่ใช้คำสแลงของ Gen Z ในหัวเรื่องเลย แต่บนโซเชียลมีเดีย เราเป็นคนละแบรนด์เลยทีเดียว มีเสียงที่เด็กกว่า มีมที่สนุก ๆ คอนเทนต์ที่มีความดิบและไม่ตบแต่ง ออกแบบโดยคนอายุ 21 ปีบนโทรศัพท์ที่สร้าง Engagement ได้อย่างมหาศาล”

พวกเขาไม่ใช่แบรนด์เดียวที่จ้างคนกลุ่ม Zalpha (ส่วนใหญ่เป็น Gen Z) มาช่วยเรื่องการตลาดบนโซเชียลมีเดีย Duolingo แอปฯสำหรับสอนภาษาก็จ้างพนักงานวัย 24 ปีมาเป็นผู้จัดการฝ่ายโซเชียลมีเดีย และบริษัทของเล่น Nerf ก็จ้างพนักงานวัย 22 ปีมาเป็น Chief TikTok Officer ด้วยเช่นกัน (ตามรายงานของสื่อ Fast Company)

ประชากรกลุ่ม Zalpha ที่ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมากถือเป็นเป้าหมายหลักสำหรับแบรนด์ด้วยเหตุผลด้านการเงินด้วย รายงานของ Bain & Company (บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการของอเมริกา) ล่าสุดในเดือนมกราคมบอกว่าศักยภาพในการใช้จ่ายของกลุ่ม Zalphas จะเติบโตเร็วกว่าคนรุ่นอื่นถึง 3 เท่าภายในปี 2030 นอกจากนั้นรายงานยังบอกอีกว่าคนกลุ่มนี้จะกลายเป็น 1/3 ของลูกค้าสินค้าพรีเมียมและมี “ทัศนคติที่แก่ก่อนวัยต่อสินค้าลักชัวรี”

แพทริกบอกว่า Gen Alpha ก็คือ Gen Z บนสเตอรอยด์นั่นแหละ

“พวกเขามีอุดมคติเกี่ยวกับโลก พวกเขาสนับสนุนความหลากหลายและเรียกร้องให้สิ่งนี้เกิดขึ้น พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศของตัวเอง … มีความคิดสร้างสรรค์สูง มีความเป็นผู้ประกอบการ พวกเขาเกิดมาบนโลกที่ Alexa อยู่ตรงนั้นแล้ว”

เราอาจจะเคยได้ยินว่า Gen Z นั้นเติบโตมาพร้อมกับโลกออนไลน์ แต่ Gen Alpha คือเติบโตมาบนโลกออนไลน์เลยมากกว่า เรียกว่าเป็นกลุ่มเด็กที่ถูกทดลองแบบไม่ตั้งใจทั้งโลกเลยว่าถ้าเอาหน้าจอให้ใช้เติบโตมาแล้วจะเป็นยังไง โดยตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็เริ่มคาดการณ์กันว่าเด็กในรุ่นนี้จะมีความอดทนน้อยกว่า เพราะรู้สึกว่าทุกอย่างเคยได้แบบทันทีตลอดเวลา

นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นและธุรกิจต้องปรับตัว ซึ่งถ้าทำตามที่สคูล่าร์​แนะนำ อาจจะต้องเริ่มมองหา Gen Z เพื่อมาช่วยสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่กันได้แล้วแต่เนิ่น ๆ