ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Jitta.com ซึ่งเป็น Platform การลงทุนที่เราสามารถค้นหาหุ้นดีราคาถูกมาลงทุนได้นะครับ เดี๋ยวนี้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยจัดการเลย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังเรียนรู้เรื่องการลงทุนด้วย เพราะเขาวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆมาให้เราพร้อมจัดอันดับใน Jitta Ranking สามารถนำไปวางแผนเพื่อออมหุ้นด้วยตัวเองได้เลย หรือหากใครที่ไม่ต้องการซื้อขายหุ้นเองก็สามารถใช้ Jitta Wealth ได้เช่นกันนะครับ

ในบทความนี้พี่ต้าร์ก็จะพามาดู How - To ในการใช้งานเพื่อให้นักออมหุ้นทุกคนได้เห็นประโยชน์ของ Platform นี้ครับ

หลักการลงทุนแบบ Jitta x DCA เป็นอย่างไร?

ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจ Concept ในการลงทุนก่อนนะครับว่า หากเราอยากประสบความสำเร็จในการลงทุนในระยะยาวได้จะต้องลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดี เป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตและราคาต้องเพิ่มขึ้น สามารถขายทำกำไรให้มีเงินงอกเงยได้

ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นเว็บไซต์ Jitta.com จะนำข้อมูลมาจาก S&P Global ซึ่งมี 50,000 หุ้นทั่วโลก เป็นงบการเงินทั้ง 3 ประเภท โดยแต่ละงบการเงินใช้ข้อมูล 10 ปีย้อนหลัง ด้วยข้อมูลที่ใหญ่ขนาดนี้เราคงวิเคราะห์เองไม่ได้แน่ๆ Jitta.com ก็เลยใช้ระบบ AI กับ Big Data มาจัดการวิเคราะห์ ทั้งในแง่ของการเติบโตธุรกิจ ตัวเลขของงบการเงินหลายๆปีด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดและนำมาดูว่าราคาที่ซื้อขายในตลาดนั้นมีราคาถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง การลงทุนในรูปแบบนี้ซึ่งเป็นแนวทางที่ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้ด้วยครับ

How To ในการใช้ Jitta มาออมหุ้นแบบ DCA

มาดูกันนะครับว่าเราจะใช้ Platform นี้ได้อย่างไร แบบ Step by Step กันเลยนะครับ เพื่อนๆสามารถเข้าไปใช้งานในเวปไซต์ Jitta.com เพื่อดูข้อมูลดังนี้นะครับ

Step ที่ 1 ใช้ Jitta.com หาหุ้นดีราคาถูก

เมื่อเราเข้ามาใน Jitta.com จะเห็นว่ามีรายการของหุ้นเรียงรายอยู่ โดยค่าเริ่มต้นนั้นจะจัดเรียงโดย Jitta Ranking ซึ่งเป็นการจัดอันดับหุ้นดีราคาถูกหรือราคาเหมาะสมในช่วงเวลานั้นโดยมีการคำนวณแล้วจัดเป็นอันดับความน่าสนใจในการลงทุนให้เรา โดยเรียงจากซ้ายไปขวาและจากบนลงล่างนะครับ 

ต้องอย่าลืมนะครับว่าระบบสามารถวิเคราะห์หุ้นได้อย่างละเอียดถึง 50,000 ตัวด้วยมาตรฐานเดียวกัน การจัดอันดับหุ้นดีที่น่าลงทุนจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มที่เรารู้จักอย่างในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 SET100 หรือหุ้นมีชื่อเสียงเท่านั้น หุ้นที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักแล้วเป็นหุ้นเพชรในตมก็อาจจะโผล่เข้ามาอยู่ในอันดับให้เราเจอได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

เมื่อเราคลิกเข้ามาแล้ว Jitta.com จะมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ว่า ทำไมถึงมองว่าหุ้นตัวนั้นๆ น่าลงทุน ซึ่งจะมีการสรุปด้วย Jitta Score และ Jitta Line นะครับ

1. Jitta Score (หุ้นคุณภาพดี)

จะเป็นตัวเลขที่ทางระบบคำนวณถึงความมั่นคงทางด้านการเงิน ความสามารถในการแข่งขัน การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง อัตราการเติบโต ประสิทธิภาพในการบริหาร และความยั่งยืนของธุรกิจ โดยคำนวณจากงบการเงินย้อนหลังหลายๆ ปี บริษัทไหนที่รักษามาตรฐานการทำธุรกิจที่ดีได้เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องก็จะมี Score ที่สูง ถือว่าเป็นกิจการชั้นยอดที่น่าลงทุนครับ จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าหุ้นมี Jitta Score ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนะครับ

2. Jitta Line (หุ้นราคาถูก)

จะเป็นเส้นที่บอกว่ามูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ เป็นอย่างไร โดยใช้ศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดและทรัพย์สินที่ในอดีตมาวิเคราะห์ เพื่อหาราคาที่เหมาะสม ณ ปัจจุบัน ซึ่งก็คือราคาที่ควรซื้อธุรกิจในวันนี้หากต้องการคืนทุนใน 10 ปี หากราคาปัจจุบันซื้อขายในตลาดต่ำกว่า มูลค่าที่ Jitta Line ประเมินออกมา แปลว่าเป็นหุ้นที่ยังราคาถูก มีความเสี่ยงขาดทุนน้อยกว่า (margin of safety) ด้วย

ภาพข้างล่างจะเป็นตัวอย่างหุ้นที่มีการจัดอันดับ 1 ของ Jitta Ranking ในวันที่ 14 สิงหาคม 2562 จะเห็นได้ว่า Jitta Line ประเมินมูลค่าประมาณ 12 บาทนิดๆ ซึ่งอยู่สูงกว่า ราคา 8.60 บาท ที่ซื้อขายในตลาดทรัพย์นะ อันนี้ล่ะคือหุ้นที่มีราคาถูกกว่าพื้นฐานที่ควรเป็น

นอกจากนี้แล้วหากเราต้องการดูรายละเอียดปลีกย่อยที่เป็นตัวเลขทางการเงินจริงๆ อย่างงบการเงินของบริษัทที่เราต้องการเข้าไปศึกษา ก็สามารถดูเพิ่มได้จากแท็บ FactSheet เช่นกันนะครับ

จะเห็นได้ว่าการเลือกหุ้นดีราคาถูกบน Jitta.com ง่ายมากๆ เขาจัดอันดับด้วย Jitta Ranking มาให้เลย ถ้าอยากดูหุ้นว่าดีหรือไม่ดีก็ดูด้วย Jitta Score พร้อมกับข้อมูลทางการเงินต่างๆ และถ้าจะเช็คว่าหุ้นราคาถูกไหมก็ดูที่ Jitta Line ประกอบครับ

Step ที่ 2 จัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นกระจายความเสี่ยง

พอเรารู้ว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นดีราคาถูก ก็ไม่ใช่ว่าจะลงทุนแบบทุ่มเงินไปหุ้นที่อยู่ในอันดับแรกทันทีนะครับ ต้องอย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยงที่เราคาดเดาอนาคตไม่ได้ พอเจอปัจจัยที่ส่งผลตอบความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงต่างๆ แบบฉับพลันพื้นฐานก็เปลี่ยนในทันทีได้ เช่น โรงงานของบริษัทถูกไฟไหม้ ถูกก่อการร้าย หรืออาจจะเกิดความเสี่ยงของธุรกิจที่ต่อมา Jitta Ranking ประเมินความน่าสนใจใหม่แล้วแย่ลง พอมันเกิดความเสี่ยงขึ้นมาพอร์ตการลงทุนเราเสียหายได้

การลงทุนที่ดีนั้นจะต้องจัดพอร์ตและเลือกหุ้นหลายๆ ตัวตามหลักการใส่ไข่ไว้หลายๆ ตะกร้า เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนครับ  อาจจะเลือกหุ้นที่อยู่ใน 5-10 อันดับแรกของ Jitta Ranking มาลงทุน กระจายเงินลงแต่ละหุ้นเท่าๆ กัน แต่ทั้งนี้จะซื้อหุ้นกี่ตัวก็ตามก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณการลงทุนจากเงินเก็บและเงินออมในแต่ละเดือนของเรานะครับ 

Step ที่ 3 เปิดพอร์ตและลงทุนแบบ DCA

หลายคนจะคุ้นเคยวิธีการออมหุ้นแบบ DCA ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัญชีออมหุ้นหรือการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นทั่วไปและตั้งซื้อโดยคำสั่ง DCA Order ใน Settrade Streaming ซึ่งจะเป็นการซื้อรายเดือนสะสมไปเรื่อยๆ

แต่การลงทุนด้วยแนวทาง Jitta x DCA นั้นเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ต่างออกไป โดยที่เราจะซื้อกันรายปีและมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนในทุกๆ ปีด้วย จริงๆการ DCA รายปีหลายคนก็ทำกันอยู่บ่อยๆนะครับ เช่น การซื้อ RMF ครั้งเดียวในเดือนธันวาคมก่อนที่เราจะลดหย่อนภาษีในต้นปีถัดไปเพราะฉะนั้นเราจะต้องส่งคำสั่งซื้อด้วยตัวเอง ไม่ยากครับ ใช้เวลาแค่ปีละครั้งด้วย

ส่วนตัวผมขอแนะนำให้เปิดบัญชี Cash Balance นะครับ เพื่อเราจะได้สะสมเงินไปแล้วเก็บมาซื้อหุ้นทีเดียวเลย

ขั้นตอนนี้เราจะต้องกำหนดดังนี้ครับ

  • กำหนดเงินลงทุนในการซื้อหุ้น ตรงนี้ตามงบประมาณของเราเลยนะครับ เช่น เราอาจจะสะสมเงินในแต่ละเดือนไว้ 20,000 บาท ซึ่งจะทำให้เรามีเงินในรอบปีนั้นๆ 240,000 บาท
  • กำหนดหุ้นที่เราจะ DCA ตรงนี้ง่ายมากๆเลยครับ สมมติเราจะลงทุนหุ้น 10 ตัวก็ดูตาม Jitta Ranking 1-10 ของวันลงทุนได้เลย เอาจำนวนเงินลงทุนหารด้วย 10 ก็จะเป็นจำนวนเงินที่ต้องซื้อหุ้นแต่ละตัว เพราะฉะนั้นเงินจะต้องเพียงพอต่อการซื้อหุ้นนะ
  • กำหนดวันที่เราจะซื้อรอบปี เช่น เราจะซื้อทุกวันที่ 15 มกราคม ของทุกปี ถ้าติดวันหยุดก็เลื่อนไป 1 วันนะครับ

อาจจะมีหลายคนสงสัยว่า เราสามารถ DCA เดือนละครั้งได้หรือไม่? คำตอบก็คือได้ครับ แต่เราจะต้องซื้อหุ้นตาม Jitta Ranking ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเดือน จึงแนะนำให้ลงทุนเป็น DCA รายปีกันดีกว่านะครับ

Step ที่ 4 Review และปรับพอร์ตปีละครั้ง

ในการลงทุนแบบ Jitta x DCA นั้น ไม่ใช่ว่าเราจะดูข้อมูลเพียงครั้งเดียวและทยอยซื้อไปโดยไม่กลับมาดูมันอีกนะครับ ต้องมานั่ง Review กันด้วยนะ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เมื่อครบปีเราก็มาเช็คกับ Jitta.com ว่าหุ้นที่เรากำลังลงทุนอยู่เป็นอย่างไร ยังติดอันดับใน Jitta Ranking หรือไม่?

ถ้าหุ้นยังอยู่ในลำดับที่น่าสนใจในการลงทุน ยังเติบโตดีมีคุณภาพ แม้ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังถูกเมื่อเทียบกับพื้นฐาน เราก็ลงทุนต่อกันได้ครับ แต่ถ้าหากกิจการแย่ลง ความสามารถในการแข่งขันลด หรือมีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า เราก็ปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของเราด้วยการขายทำกำไรไปซื้อหุ้นใหม่ได้ครับ

เทคนิคในการปรับพอร์ตวิธีการหนึ่งคือการใช้ Rebalancing Port การลงทุนควบคู่ไปด้วย 

ดังนี้นะครับ

  • ให้เราสำรวจอันดับ Jitta Ranking ว่าหุ้นที่เราลงทุนอยู่นั้นมีความเปลี่ยนแปลงอันดับอย่างไรบ้าง เช่น เริ่มต้นเราลงทุนใน Jitta Ranking 10 อันดับแรก 
  • ในปีต่อมาหากหุ้นที่เรามีอยู่บางตัว ไม่ได้อยู่ใน Jitta Ranking 10 อันดับแรกแล้วก็พิจารณาขายหุ้นออกจากพอร์ตครับ 
  • หากหุ้นไหนมาใหม่ อยู่ใน Jitta Ranking 10 อันดับแรกเราก็พิจารณาซื้อแทนตัวเก่าได้ (แนะนำไม่ควรเกิน 30 ตัวต่อรอบการลงทุน)
  • Rebalance Port ให้หุ้นแต่ละตัวในพอร์ตมีมูลค่าใกล้เคียงกัน โดยขายส่วนเกินของหุ้นที่กำไรเกินสัดส่วนและซื้อเพิ่มในหุ้นที่สัดส่วนน้อยกว่าหุ้นอื่น ตามรูปข้างล่างนี้นะครับ

ถ้าเราใช้หลักการนี้ในการลงทุนด้วย Jitta x DCA จะช่วยทำให้เราลดความเสี่ยงในการลงทุนได้หลายชั้นมากๆ เลย จากเหตุผล ดังนี้

1. เราใช้ Jitta Ranking ในการเลือกหุ้นน่าลงทุน พื้นฐานดี ราคาถูก

2. เรามีการจัดพอร์ตหุ้น เลือกหุ้นหลายๆตัวเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

3. เราใช้วิธีการออมหุ้นแบบ DCA เพื่อลดความเสี่ยงด้านเวลาและความผันผวน

4. เรามีการปรับพอร์ตการลงทุนเป็นระยะเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม Jitta.com เป็นเพียง Platform ที่ช่วยให้ข้อมูลกับเราในการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นเท่านั้น นักลงทุนจะต้องศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน เข้าใจวิธีการและหลักการ รวมถึงการสร้างวินัยในการลงทุนถึงจะประสบความสำเร็จได้นะครับ

ไม่มีเวลา ไม่อยากลงทุนและจัดการพอร์ตเอง ใช้บริการ Jitta Wealth ดูไหม

สำหรับคนที่ไม่มีเวลาติดตามเรื่องการลงทุน แต่อยากให้ระบบที่ทำงานให้เงินงอกเงยด้วยหลักการนี้ เราก็สามารถใช้บริการกองทุนส่วนบุคคล บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด สตาร์ทอัพแรกของไทยที่ได้รับอนุญาตบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามกฎหมาย

Jitta Wealth ใช้หลักการเดียวกับที่ผมเล่าให้ฟังด้านบนครับ คือการลงทุนในหุ้นดีราคาถูกที่ถูกจัดอันดับใน Jitta Ranking แต่เราไม่ต้องมาจัดการเอง 

ในวันที่เราเริ่มลงทุนระบบจะทำการซื้อและถือหุ้นไปเรื่อยๆ แต่จะมีเพิ่มมาเล็กน้อยคือ Jitta Wealth จะคอยรีวิวพอร์ตให้ทุกๆ 3 เดือน เพราะทดสอบมาแล้วว่าได้ผลตอบแทนดีกว่าปรับพอร์ตปีละครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการจัดอันดับใน Jitta Ranking ระบบจะขายหุ้นที่ไม่ติดอันดับแล้วออกไป ซื้อหุ้นที่ติดอันดับเข้ามาใหม่ และถือหุ้นที่ยังติดอันดับต่อ พร้อมปรับสัดส่วนหุ้นในพอร์ตให้เหมาะสม ส่วนเราก็รอดูการเติบโตของพอร์ตการลงทุนเราครับ

วิธีการการลงทุนมีดังนี้นะครับ

  • ลงทุนครั้งแรกในไทย 5 แสนบาท สหรัฐฯ 1 ล้านบาท และเวียดนาม 3 ล้านบาท
  • เพิ่มทุนครั้งต่อๆ ไปในไทยและสหรัฐฯ 1 แสนบาท ในส่วนของสหรัฐและเวียดนาม 3 แสนบาท

หากใครต้องการ DCA จะต้องโอนเงินเข้ามาในบัญชีที่ลงทุนตามระยะเวลาที่เราต้องการ (ระบบไม่ได้ตัดอัตโนมัติน้า) ทำได้ทั้งแบบรายเดือน รายไตรมาส รายครึ่งปี หรือรายปีก็ได้ครับ ไม่ต้องรอจังหวะตลาดตกด้วย เพราะตามสถิติเพิ่มทุนอย่างมีวินัย สม่ำเสมอโดยไม่สนใจจังหวะตลาดให้ผลตอบแทนระยะยาวสูงกว่ารอตลาดตก ง่ายไหม แค่โอนเงินเข้าไประบบก็จัดการให้ทุกอย่างเลย ลองไปดูสถิติในบทความนี้  "เวลาที่ดีที่สุดในการลงทุน" บนเว็บไซต์เพื่อการลงทุน Passive Way เพิ่มเติมได้นะครับ

ถ้าใครสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Jitta Wealth สามารถศึกษาข้อมูลได้ทางเวปไซต์ https://jittawealth.co/t/gm62 นะครับ ในเวปไซต์เขาจะแสดงผลตอบแทนย้อนหลังให้ดูด้วยนะครับ และที่สำคัญคือมีข้อมูลการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของกองทุนในแต่ละประเภทด้วยว่า Jitta Wealth คิดถูกกว่าที่อื่นอย่างไร

ถ้าต้องการรายละเอียดเจาะลึก ลงทะเบียน เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมทางอีเมลได้เลยครับ

อย่าลืมนะครับว่าการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญในยุคดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ แต่เราก็มี Jitta.com และ Jitta Wealth ที่เข้ามาช่วยทำให้ชีวิตการลงทุนของเราง่ายขึ้นและสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ด้วยนะครับ เริ่มต้นกันเลยตั้งแต่วันนี้ ออมก่อน รวยก่อน ลงทุนก่อน มั่งคั่งก่อนครับ

บทความนี้เป็น Advertorial