หลายคนยอมทุ่มเงินไปกับการซื้อลอตเตอรี่ แม้ว่าจะยิ่งเล่นก็ยิ่งถูกกิน เงินที่เสียไปมากกว่าเงินที่ได้รางวัลมา (หรือบางคนก็ไม่เคยถูกเลย) แต่ก็ไม่ยอมหยุดซื้อสักที เพราะหวังว่าเราจะเป็น “ผู้ชนะ” ในสักวัน

ยิ่งถ้ามองในมุมของผู้มีรายได้น้อย ลอตเตอรี่เป็น “เกมแห่งความหวัง” แค่เพียงไม่กี่เกมที่คนจนมีโอกาสชนะพอๆกับคนรวย เราจึงยอมกระโดดเข้ามาเสี่ยงโชค เพราะหวังว่าจะลืมตาอ้าปากได้

ซึ่งพฤติกรรมการซื้อลอตเตอรี่ สามารถอธิบายได้ด้วยหลักเหตุผลที่น่าสนใจ โดย aomMONEY จะสรุปให้ฟังต่อไปนี้

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยว่า ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย มีสัดส่วนการซื้อลอตเตอรี่อยู่ที่ราว 3.7% ของรายได้ ซึ่งมากกว่าครัวเรือนที่มีรายได้สูง ที่มีสัดส่วนการซื้อลอตเตอรี่ไม่ถึง 1% ของรายได้ สะท้อนให้เห็นว่าคนจนฝากความหวังไว้กับลอตเตอรี่

นายภาคภูมิ จตุพิธพรจันทร์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์ด้านการพัฒนา จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า ข้อมูลดังกล่าวมีความน่าเป็นห่วง เพราะครัวเรือนที่รายได้น้อยมักจะนำเงินไปซื้อลอตเตอรี่ แทนที่จะนำเงินไปเก็บออม หรือใช้จ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่า

ทำไมคนยากจนถึงชอบซื้อลอตเตอรี่?

นายภาคภูมิระบุว่า ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ เป็น “ตัวกระตุ้น” ให้คนยากจนซื้อลอตเตอรี่ เนื่องจากพวกเขารู้สึกด้อยค่ากว่าคนกลุ่มอื่นในสังคม จึงต้องการที่จะผลักดันตัวเอง ให้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้น ซึ่งเครื่องมือที่จะทำให้ความฝันนี้เป็นจริงได้ ก็คือ “ลอตเตอรี่” นั่นเอง

เพราะลอตเตอรี่เป็น “เกมแห่งความหวัง” แค่เพียงไม่กี่เกม ที่คนยากจนจะมีโอกาสชนะพอๆ กับคนที่มีฐานะดีกว่า

พวกเขาใช้เงินราว 10-20% ของรายได้เพื่อซื้อลอตเตอรี่ หรือบางคนก็ใช้เงินมากกว่ารายได้ที่มีทั้งเดือนด้วยซ้ำ เพราะต้องการเสี่ยงโชค โดยหวังว่าตัวเองจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

ฟังแล้วอาจดูเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะความยากจนทำให้คนซื้อลอตเตอรี่เยอะขึ้น แต่การซื้อลอตเตอรี่เยอะขึ้น ก็ทำให้มีเงินออมน้อยลง โอกาสที่จะหลุดพ้นจากความยากจนก็น้อยลงไปด้วย ซึ่งนี่แหละคือกับดักความยากจนอย่างหนึ่ง

แต่ลอตเตอรี่ ไม่ใช่ “ผู้ร้าย” เสมอไป

การซื้อลอตเตอรี่ไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่แย่เสมอไป และการเป็นคนบ้าหวย ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องถูกตำหนิติเตียน เพราะผลตอบแทนของมันไม่ได้มีแค่เงินรางวัลเท่านั้น แต่ยังมีความตื่นเต้นที่ได้จากการลุ้นว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ และยังมีความสุขที่เกิดจากความหวัง ว่าตัวเองจะหลุดพ้นจากความยากจนอีกด้วย

ดังนั้นลอตเตอรี่จึงไม่ใช่ผู้ร้าย หากเรารู้จักซื้อในปริมาณที่เหมาะสม มันก็จะทำให้เรามีความสุข แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือยังมีคนที่ซื้อลอตเตอรี่มากเกินไป จนส่งผลเสียร้ายแรงต่อการใช้ชีวิต เช่น ใช้เงินที่มีอยู่ไปซื้อลอตเตอรี่จนหมด หรือกู้เงิน หยิบยืมเงินผู้อื่นมาซื้อลอตเตอรี่ เป็นต้น

ภาครัฐควรทำอย่างไร ให้ประชาชนซื้อลอตเตอรี่แต่พอดี?

1. ต้องให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

ผู้บริโภคมักมีแนวโน้มประเมินโอกาสที่จะถูกลอตเตอรี่มากเกินความเป็นจริง (overestimate) จึงทำให้ซื้อลอตเตอรี่มากเกินไป ดังนั้นภาครัฐจำเป็นต้องให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชน เช่น หลักความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่า การซื้อเลขเดิมซ้ำๆกันทุกงวดไม่ได้ทำให้มีโอกาสถูกรางวัลมากขึ้น เป็นต้น โดยอาจเป็นรูปแบบของการเข้าไปพูดคุย การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ

2. ต้องส่งเสริมความรอบรู้ทางการเงิน (financial literacy)

ภาครัฐต้องส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมาย รู้จักจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้ทบทวนว่าตนเองเสียเงิน หรือได้เงินจากลอตเตอรี่มากกว่ากัน และส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะในการควบคุมตนเอง เช่น การเขียนระบุในใบสลากว่า เงินที่จ่ายนี้สามารถซื้อข้าวให้ลูกได้ 2 มื้อ เพื่อให้เกิดการยั้งคิดก่อนตัดสินใจซื้อ ป้องกันพฤติกรรมซื้อของโดยฉับพลัน (impulse buying)

นอกจากนี้ ภาครัฐสามารถชักชวนให้ประชาชนตั้งเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ฉันจะไม่ซื้อลอตเตอรี่เกิน 160 บาทต่อเดือน หากทำไม่สำเร็จก็จะบริจาคเงินให้กับวัด 50 บาท เป็นต้น

3. ต้องลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ภาครัฐควรส่งเสริมให้คนจนสามารถหารายได้เพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางโอกาสในสังคม เช่น การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การช่วยจัดหางาน ฯลฯ เพื่อให้คนกลุ่มนี้รู้สึกว่า ตนเองมีความสามารถที่จะหลุดพ้นจากความยากจนได้ โดยไม่ต้องหวังพึ่งลอตเตอรี่

4. เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

ภาครัฐสามารถนำความนิยมซื้อลอตเตอรี่ มาใช้เป็นเครื่องมือช่วยให้คนจนมีเงินออมเพียงพอสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณ ด้วยเครื่องมืออย่าง “สลากออมทรัพย์” โดยปรับปรุงสลากออมทรัพย์ประเภทต่างๆ

เช่น ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขเองได้ การเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น (เหมือนอย่างการขายลอตเตอรี่ ที่พบได้ทุกตรอกซอกซอย) ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้คนหันมาซื้อสลากออมทรัพย์ เก็บเป็นเงินออม แทนการซื้อลอตเตอรี่ที่สูญเงินไปเปล่าๆ นั่นเอง