เรียกได้ว่าเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ในช่วงที่ผ่านมา ‘ซอสพริกศรีราชาตราไก่’ ขาดตลาด บริษัทประสบปัญหาขาดแคลนพริก เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ชนิดที่ว่าคนต้องไปหาตุนเก็บเอาไว้ราคาพุ่งไปขวดละเกือบ 3,000 บาทเลยทีเดียว (ซึ่งราคาปกติจะขายกันขวดละ 200 บาท)
หลายคนอาจจะสงสัยเกี่ยวกับเจ้า ‘ซอสพริกศรีราชาตราไก่’ ฝาเขียวอันนี้ เพราะชื่อของมันเหมือนกับ ‘ซอสพริกศรีราชาพานิช’ บ้านเราเลย (ที่เราใช้ราดไข่เจียวกันมาตลอดนี่แหละ) มันเป็นของเลียนแบบไหม แล้วทำไมมันถึงได้ดังขนาดนี้?
มันคือซอสพริกศรีราชาเหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ใครคือต้นตำรับ ใครเป็นตัวก๊อบปี้ ที่มาที่ไปเป็นยังไง รสชาติแตกต่างกันไหม เรื่องราวของมันก็เผ็ดร้อนไม่น้อยเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อน ต้นตำรับของซอสพริกศรีราชาพานิช (ชื่อเดิมเรียกว่า น้ำพริกศรีราชา) ถูกคิดค้นขึ้นโดย ‘กิมซัว ทิมกระจ่าง’ คนไทยเชื้อสายจีนที่ตั้งรกราก ณ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
กิมซัวมีอาชีพค้าขาย แต่ก็เป็นคนชอบทำอาหาร โดยเฉพาะประเภทน้ำพริก เขาคิดค้นวิธีการถนอมอาหารจากพริกสดด้วยวิธีการทางธรรมชาติ รสชาติจัดจ้าน จนเป็นที่มาของ ‘น้ำพริกศรีราชา’ นั่นเอง
จุดเด่น คือ เป็นซอสพริกล้วน 100% หมักบ่มด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่สี ไม่ใส่แป้ง ไม่ใส่ผงชูรสและสารใดๆ สามารถเก็บไว้ได้นาน
ที่สำคัญมีรสชาติจัดจ้าน เผ็ด เปรี้ยว หวาน หอม เลยลองแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านและคนที่รู้จักได้ชิม ทุกคนล้วนบอกว่าอร่อย
สูตรของน้ำพริกถูกส่งมาถึงลูกหลานรุ่นต่อไป หนึ่งในนั้นคือคุณถนอม ทิมกระจ่าง (ภายหลังแต่งงานเปลี่ยนนามสกุลเป็น จักกะพาก) ซึ่งกลายเป็นผู้ที่ทำให้น้ำพริกศรีราชาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
กลายเป็นสินค้าท้องถิ่นชื่อดัง เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ใครแวะเวียนไปที่นั่นต้องซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไป
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2527 เมื่อ ‘บริษัท ไทยเทพรส จำกัด(มหาชน)’ ผู้ผลิตซอสปรุงรสตราภูเขาทอง ซอสภูเขาฝาเขียว มาเข้าซื้อกิจการของน้ำพริกศรีราชา แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “ซอสพริกศรีราชาพานิช’ และขยายไปขายตามร้านโชห่วยและห้างสรรพสินค้าทั่วไปประเทศ รวมถึงส่งออกไปต่างประเทศด้วย ตอนนี้มีขายกว่า 50 ประเทศทั่วโลกแล้ว
แล้ว ‘ซอสพริกศรีราชาตราไก่’ คืออะไร? มาจากไหนกันหล่ะ
มันเป็นซอสพริกที่ดังระดับโลกและครองใจชาวอเมริกันหลายล้านคน
ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวครั้งใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยอยู่ที่อเมริกา มีโอกาสเห็นเจ้าซอสพริกศรีราชาตราไก่ครั้งแรกที่ร้านเฝอเวียดนาม (เฝอก็คือก๋วยเตี๋ยวเวียดนามนั่นแหละครับ) คือบนโต๊ะจะมีซอสพริกศรีราชาตราไก่นี้วางไว้ด้วย ดีใจมากเพราะคิดถึงอาหารไทย แล้วซอสพริกศรีราชาคือสิ่งที่เราเติบโตมากับมัน ราดบนไข่เจียวโคตรอร่อย แต่อันนี้วางไว้ในร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งก็งงว่าเอาไว้ให้ทานกับอะไร เลยถามพนักงาน เขาบอกว่าให้ใส่ในน้ำซุปเลย ยิ่งงงเข้าไปอีก
พอชิมก็รู้เลยว่า ‘นี่ไม่ใช่ศรีราชาที่ฉันรู้จัก’ รสชาติเผ็ดพอใช้ได้ แต่มันติดเปรี้ยว!
หลังจากนั้นพอมาค้นหาข้อมูลของ ‘ซอสพริกศรีราชาตราไก่’ อันนี้ก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น ต้นกำเนิดของมันมาจากชายที่ชื่อว่า David Tran ชาวเวียดนามเชื้อสายจีนที่อพยพหนีสงครามเวียดนามมายังสหรัฐอเมริกา ในปี 1980
เนื่องจากเขาต้องการจะทำซอสไว้กินกับเฝอ ซึ่งในอเมริกามันหาไม่ได้ จึงเริ่มต้นผลิตซอสรสชาติเผ็ดร้อนขึ้น โดยมีแรงบันดาลใจมาจาก ‘ซอสพริกศรีราชาพานิช’ ที่นิยมทานกันในประเทศไทยนั่นเอง
เดวิดยอมรับว่า ซอสของเขามีต้นตำรับมาจากประเทศไทย แต่เขาต้องการผลิตซอสที่มีรสชาติเผ็ดร้อนกว่าเดิมเพื่อให้ชาวเวียดนามในอเมริกาทาน เขาเคยกล่าวว่า “ผมรู้ว่า มันไม่ใช่ซอสศรีราชาของไทย แต่มันเป็นซอสศรีราชาของผม”
ภายหลังก่อตั้งบริษัทชื่อ Huy Fong Foods ซึ่งตั้งตามชื่อเรือขนส่ง ‘ฮุย ฟง’ ที่เขาอาศัยอพยพจากเวียดนามมายังอเมริกาโดยใช้ตราสัญลักษณ์บนขวดซอสเป็น ‘ไก่’ ที่เป็นสัตว์ประจำปีนักษัตรของเขา และโทนสีแดงกับเขียวเพื่อสื่อถึงความเป็นพริกสดมากที่สุด ส่วนฝาสีเขียวก็เป็นขั้วของพริกนั่นเอง
เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่าซอสพริกศรีราชาบ้านเราคือต้นตำรับที่แท้จริงก็คงไม่ผิดนัก
ด้วยเอกลักษณ์ในเรื่องรสชาติ ทำให้ซอสพริกศรีราชาตราไก่ของเดวิด ทราน ได้รับความนิยมจนเกิดปากต่อปาก และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดซอสพริกในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางยักษ์ใหญ่ทั้ง Heinz และ Tabasco
แล้วรสชาติของทั้งสองแบรนด์เหมือนหรือแตกต่างกันยังไงหล่ะ ซอสพริกศรีราชาพานิช เป็นซอสพริกล้วน 100% มีรสชาติจัดจ้าน ออกไปทาง ‘เผ็ด หวาน’ ซึ่งเป็นรสที่ได้มาจากวัตถุดิบหลักอย่างพริกชี้ฟ้า กระเทียมไทย น้ำตาลทรายขาว น้ำส้มสายชู และเกลือทะเล
ส่วนซอสศรีราชาตราไก่จะให้รสออกไปทาง ‘เปรี้ยวเผ็ด’ ที่มาจากพริกฮาลาปินโน่ (พริกเม็กซิโก) กระเทียม น้ำตาล และวัตถุดิบที่หาได้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้ได้ซอสรสชาติเผ็ดร้อนที่ทานได้กับทั้งอาหารเวียดนามและอาหารทุกประเภท
แต่สิ่งที่ทำให้ซอสพริกศรีราชาตราไก่โด่งดังทั่วโลกแม้จะมาทีหลังก็เพราะช่วงนั้นคนอเมริกันเริ่มหันมาให้ความสนใจกับอาหารเอเชียที่เผ็ดร้อนมากขึ้น และเมื่อมันกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นแถบนั้นก็บริโภคมากขึ้นนั่นเอง
ด้วยยอดขายราว ๆ 131 ล้านเหรียญในปี 2020 (4,400 ล้านบาท) ทำให้ตอนนี้บริษัทฮุยฟงของเดวิดนั้นมีมูลค่าขึ้นไปแตะหลัก 1 พันล้านเหรียญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้ด้วยวัย 78 ปีและยังถือครองหุ้นของบริษัททั้งหมดอยู่ ก็กลายเป็นเศรษฐีซอสพริกพันล้านคนเดียวในอเมริกาเลย และถึงแม้ว่าคู่แข่งจะเริ่มโดนบริษัทใหญ่ ๆ ซื้อไปบ้างแล้วอย่าง (Cholula ก็เพิ่งโดน McCormick ซื้อไปในช่วงปี 2020 ถึง 800 ล้านเหรียญ) เดวิดไม่เคยคิดว่าจะขายบริษัทฮุยฟงของตัวเองเลย และจะส่งต่อให้ลูกสองคนที่ทำงานด้วยกันดูแลต่อไป