เป้าหมายแรกของชีวิตคือการเกษียณ หลายคนคงได้ยินประโยคนี้จนเอียนแล้วใช่ไหมล่ะครับ ... ใช่แล้วล่ะครับ เพราะนี่คือบทความรีวิวกองทุน RMF ของบลจ.ธนชาต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการวางแผนเกษียณที่อยากจะแนะนำทุกคน เพราะมันมีประโยชน์ทั้งเงินเกษียณและประหยัดภาษี

พรี่หนอมเคยเขียนรีวิวกองทุน T-LowBetaRMF ไว้เมื่อ 2 ปีก่อนในหัวข้อ เพราะคุณไม่ซื้อ RMF ไง คุณเลยไม่มีเงินเกษียณ และอธิบายเหตุผลไว้ถึง 3 ข้อที่ควรซื้อ RMF เพื่อวางแผนเกษียณกันไปแล้ว นั่นคือ เงิน วินัย และ ลงทุน ซึ่งเชื่อว่า ณ วันนี้ใครหลายคนก็คงตัดสินใจซื้อไปบ้างไม่มากก็น้อยครับ

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับการลงทุนระยะยาวใน RMF นั้น มันคือคำถามว่า “กองทุนไหนดี” ซึ่งคำถามนี้ ไม่ใช่ในแง่ของการเลือกซื้อกองทุนเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการปรับเปลี่ยนพอร์ทเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มีเงินเกษียณมากขึ้นนั่นแหละครับ

ในช่วงหลังๆ เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ว่า ให้กระจายการลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศบ้าง ไปลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ตลาดพัฒนา ตลาดสด (ไม่ใช่!!) หรือว่าจัดตามธีมอุตสาหกรรมนู่นนั่นนี่ที่กำลังจะมาในอนาคต ซึ่งทำให้เกิดปัญหาและความสับสนตามมาว่า แล้วสรุปต้องซื้อกองไหน เปลี่ยนพอร์ทอย่างไร หรือจัดการปรับพอร์ทการลงทุนอะไรทุกๆปี เพื่อให้ชีวิตดีตามที่คิดไว้

ถ้าเรามีความรู้และความเข้าใจ รวมถึงคาดการณ์ไว้ได้ถูกต้อง ผลตอบแทนที่ได้รับนั้นดีก็ดีไป แต่ถ้ามองผิดพลาด ขาดทุนหรือรู้สึกวุ่นๆ กับการซื้อกองทุนมากมาย เราอาจจะต้องหันกลับมาตั้งคำถามถึงความเรียบง่ายของการลงทุนในกองทุนรวม และเชื่อมั่นในวิธีการคิดของผู้จัดการกองทุนแทนดีกว่าไหม?

ถ้าเราเชื่อว่าเราจัดการได้ เราก็จัดการไป แต่ถ้าหากเราไม่มั่นใจ แต่อยากลงทุนในหุ้นต่างประเทศบ้าง การเลือกลงทุนในกองทุนรวมทั่วโลกที่ผ่านการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนอาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาประกอบกันครับ

เอ้า ถึงเวลาแนะนำแล้วครับ... ขอเชิญพบกับ กองทุน T-GlobalEQRMF หรือ กองทุนเปิดธนชาตGlobal Equity เพื่อการเลี้ยงชีพพพพพพพ (ความเสี่ยงอยู่ในระดับ 6) ได้เลยครับผมมม

T-Global EQ RMF

กองทุน T-GlobalEQRMFคือกองทุน RMF ที่มีการกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายประเทศทั่วโลกโดยเลือกกองทุนรวมปลายทางต่างประเทศ ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะเน้นลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก (Active Fund) และมีผลการดำเนินงานดีสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถปรับเพิ่มน้ำหนักในประเทศที่คาดว่ามีโอกาสเติบโตเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นให้กับกองทุนครับ

ถ้าลองดูข้อมูลจากพอร์ทการลงทุนของกองทุนรวม ณ วันที่ 29 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา จะเห็นว่าเป็นดังนี้ครับ

ที่มา: บลจ. ธนชาต

ซึ่งจะเห็นว่าผู้จัดการกองทุนนั้นเน้นลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศหลักๆ ประมาณ 5 กองทุนนี้ ซึ่งแต่ละกองทุนนั้นจะมีนโยบายที่แตกต่างกันไปครับ ยกตัวอย่างเช่นกองทุน Wellington Global Quality จะเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตทั่วโลก หรือส่วนทาง Edgewood L Select – US Select Growth จะเน้นลงทุนในหุ้นอเมริกาที่มีคุณภาพสูง หรืออย่าง First State Asian ก็จะเลือกลงทุนหุ้นในฝั่งเอเชียที่ไม่รวมญี่ปุ่นครับ

ลองมาดูพอร์ทการลงทุนและข้อมูลคร่าวๆ กันครับ ...

จากข้อมูลคร่าวๆ จะเห็นว่ากองทุนนี้มีการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หลากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย เพื่อกระจายการลงทุน และสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนที่จะได้รับ (ใครสนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละกองทุนโดยละเอียด สามารถดูได้ตามลิงค์ที่ทางธนชาตรวบรวมไว้เลยครับ https://thanachartfund.com/TFUNDWEBV4/infoid/idp_funddesc.aspx?fundCode=T-GlobalEQRMF)

โดยกองทุนนี้ใช้เกณฑ์มาตรฐานในการวัด คือ MSCI AC World TR NET ทั้งสกุลเงินบาทและดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดผลตอบแทนที่ครอบคลุมตลาดหุ้นทุกตลาดทั่วโลก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลผลตอบแทนของกองทุนจะเห็นว่าทำผลตอบแทนได้ต่ำกว่าดัชนีมาตรฐานเล็กน้อย โดยสาเหตุนั้นน่าจะมาจากการที่กองทุนไม่ได้ลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่โซนยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งถูกคำนวณอยู่ในผลตอบแทนของดัชนี  ชี้วัด และอาจเป็นผลจากนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุนประกอบกันครับ

อย่างไรก็ตามถ้าเปรียบเทียบกับการดำเนินงานแบบเปอร์เซนต์ไทล์ จะเห็นว่ากองทุนนี้ทำผลตอบแทนได้อยู่ในช่วงเหนือกว่า 25th Percentile (25 อันดับแรก) สำหรับระยะเวลา 1 ปี ซึ่งมีแนวโน้มในการดำเนินงานที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 3 ปี ที่อยู่ใน 50-75th Percentile ครับ

ที่มา: บลจ. ธนชาต

ส่วนทางค่าความผันผวนนั้น จะเห็นว่ากองทุนนี้มีความผันผวนที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อยครับ แต่อยู่ในช่วงต้นๆ 5-25th Percentile เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนประเภท Global Equity ครับ

สำหรับค่าธรรมเนียมของกองทุนรวมนี้อยู่ที่ประมาณ 2.275% ครับ และจำนวนซื้อขั้นต่ำคือ 1,000 บาทครับ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงครับ แต่คงต้องมองความคุ้มค่าในแง่ของการที่ผู้จัดการกองทุนมีการทำงานเพื่อเลือกกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในหลากหลายกองทุนประกอบกันครับ

ที่มา: บลจ. ธนชาต

กองทุนนี้เหมาะกับใคร?

จากข้อมูลทั้งหมดนั้น ผมคิดว่าคนที่เหมาะกับการลงทุนในกองทุนนี้ ควรมีความต้องการ 3 ข้อนี้ครับ

1. ต้องการวางแผนเกษียณ

เหตุผลหลักข้อแรกเพราะกองทุนที่ว่านี้คือกองทุน RMF ที่เราต้องวางแผนในระยะยาวเพื่อการเกษียณ ดังนั้นถ้าหากมองแล้วเป้าหมายของการลงทุนควรจะมองที่ระยะยาวเพื่ออนาคตเป็นหลักครับ

2. ต้องการเพิ่มโอกาสโดยลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศ

กองทุนนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการขยายการลงทุนไปในกองทุนหุ้นต่างประเทศ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนนอกเหนือจากหุ้นไทยที่ได้รับ ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ร่วมกับการจัดพอร์ทการลงทุนคู่ LTF หรือ RMF หุ้นไทยตามความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้ครับ

3. ต้องการให้คนอื่นจัดการแทน

ข้อนี้ไม่ได้มุกนะครับ แต่เพราะว่าเป็นกองทุนเดียวที่กระจายการลงทุนให้ทั่วโลกในประเทศที่ทางผู้จัดการกองทุนมองว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ ดังนั้นหากเราไม่ชอบจัดพอร์ทการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเอง หรือว่าต้องการกองทุนเพียงกองทุนเดียวในการลงทุนต่างประเทศและมั่นใจผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของทางกองทุน ก็ควรเลือกลงทุนกองทุนนี้เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลาครับ

คำเตือน

กองทุนนี้คือ RMF ซึ่งต้องถือให้ถึงอายุ 55 ปี และถือครองครบ 5 ปี หากทำผิดเงื่อนไขการลงทุนจะมีผลในเรื่องของการเรียกคืนภาษีที่ได้ขอลดหย่อนไว้ รวมถึงภาษีในส่วนของ Capital Gain ที่ได้รับมาด้วย การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เข้าร่วมลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความนี้เป็น Advertorial