ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีใกล้เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นวันคริสต์มาส ฉลองโบนัส และส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมักใช้จ่ายเงินกันสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของขวัญ เดินทางกลับไปเยี่ยมคุณพ่อ คุณแม่ เดินทางท่องเที่ยว หรือจัดปาร์ตี้สังสรรค์กับครอบครัวและเพื่อนๆ

อย่างไรก็ตาม การเฉลิมฉลองช่วงปลายปีก็สามารถสร้างความเครียดได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมีงบประมาณจำกัด เพราะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับความสนุกสนานสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้บางคนอาจใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต แล่วค่อยวางแผนจ่ายทีหลัง แต่ก็ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพทางการเงินดังนั้น ดังนั้น หากไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกิดหนี้สินก้อนโตและอยู่ในภาวะการเงินมีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่

จะว่าไปแล้ว พบว่าหลายคนมีภาระทางการเงินมากเกินไปเมื่อสิ้นปีใกล้เข้ามา เพราะมีอะไรมากมายที่ต้องใช้จ่าย เช่น ซื้อของขวัญสำหรับจับฉลาก ซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับบ้าน ซื้อเสื้อผ้าใหม่สำหรับงานเลี้ยง การหยุดงานติดต่อกันหลายวัน

แต่ทุกคนไม่จำเป็นต้องก่อหนี้ช่วงเทศกาลปลายปี ด้วยการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม ขณะที่ยังสนุกสนานกับช่วงเวลาที่ดีแบบนี้

⭐วางแผนและจัดทำงบประมาณ

หากต้องการหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เกินความจำเป็นในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปี ควรเริ่มต้นด้วยการวางแผนการใช้จ่ายตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น จองซื้อตั๋วเดินทางกลับบ้านล่วงหน้าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะราคาตั๋วมีแนวโน้มปรับขึ้นเมื่อใกล้สิ้นปี (โดยเฉพาะตั๋วเครื่องบิน) และหากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าควรถามตัวเองว่าจำเป็นต้องบินในช่วงเทศกาลนี้จริงๆ หรือไม่ หรือมีทางเลือกอื่นใดบ้างที่เป็นไปได้ เช่นเดียวกัน ควรจองโรงแรม รีสอร์ท ล่วงหน้าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะโดยปกติแล้วยิ่งใกล้เทศกาลวันหยุดยาวราคายิ่งแพง

เมื่อวางแผนการเดินทางเรียบร้อย จากนั้นก็จัดทำงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายช่วงเทศกาลทั้งหมด แล้วก็ใช้จ่ายตามที่วางแผนเอาไว้ เพื่อสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

⭐เริ่มเก็บออม หารายได้เสริม

เมื่อทราบว่าปลายปีจะมีการเฉลิมฉลองแต่รู้สึกว่าเงินอาจไม่เพียงพอ ควรเริ่มต้นเก็บออมตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น เริ่มเก็บออมเดือนละ 1,500 บาท สมมติว่าเริ่มเดือนสิงหาคมไปถึงเดือนพฤศจิกายน ก็จะได้เงิน 6,000 บาท และหากชวนคู่ครองและลูกๆ เก็บออมด้วย ก็จะมีเงินฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยไม่ต้องนำเงินจากส่วนอื่นๆ (เช่น เงินฝากออมทรัพย์) มาใช้จ่าย นอกจากนี้ หากมีงานเสริมพิเศษก็ควรลงมือทำเพื่อเตรียมไว้ใช้จ่ายช่วงเทศกาล

⭐ใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ

ช่วงเดือนสุดท้ายของปี จะพบเห็นผู้คนเริ่มชอปปิ้งอย่างเพลิดเพลิน บางคนสามารถซื้อได้ทุกอย่าง ผลลัพธ์ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น ซึ่งวิธีหนึ่งที่จะลดค่าใช้จ่าย คือ เตรียมตัวและดูข้อมูลว่าต้องการซื้ออะไรก่อนเทศกาลจะมาถึง และจับตามองร้านค้าที่เป็นเป้าหมายว่ามีสินค้าอะไรลดราคา และเริ่มลดราคาตั้งแต่วันไหน เพราะโดยทั่วไปร้านค้าต่างๆ จะดึงดูดลูกค้าในช่วงใกล้เทศกาลด้วยการมีโปรโมชั่นและมอบส่วนลดราคา ที่สำคัญหากซื้อผ่านออนไลน์ก็จะยิ่งได้ส่วนลดพิเศษยิ่งขึ้น

หากสามารถใช้ประโยชน์จากข้อเสนอและส่วนลดก็จะประหยัดเงินได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้องชอปปิ้งอย่างมีเป้าหมาย และยึดมั่นตามรายการและงบประมาณ ถ้าทำได้จะช่วยให้หลีกเลี่ยงหนี้สินช่วงเทศกาลได้

⭐ให้ความสำคัญกับกิจกรรมและค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

“1 ปีมีครั้ง” ประโยคนี้อาจทำให้การเฉลิมฉลองปลายปีมีค่าใช้จ่ายบานปลายและเกินความจำเป็น อย่างไรก็ตาม หากวางแผนด้วยการเลือกทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัว นอกจากจะทำให้ค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้วก็อาจสร้างความทรงจำที่ดีให้กับทุกคนด้วย เช่น รับประทานอาหารร่วมกันที่บ้าน จากนั้นค่อยไปเดินเล่นชมสวนสวยงามที่ตกแต่งประดับประดาด้วยไฟ

โดยวิธีหนึ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงหนี้สินช่วงเทศกาลปลายปี คือ ปรับรูปแบบการเฉลิมฉลองให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทําได้ ด้วยการวางแผนกับคนในครอบครัวว่าจะปรับปรับเปลี่ยนการเฉลิมฉลองได้อย่างไร เน้นการตกแต่งแบบง่ายๆ และไม่จําเป็นต้องซื้อข้าวของเพิ่ม พูดคุยถึงความต้องการและ ความคาดหวังของกันและกัน หรือหากต้องการซื้อของขวัญก็เน้นของขวัญที่ใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่เกินงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สินที่ตามมาในอนาคต

ถึงแม้ว่าการเฉลิมฉลองเทศกาลปลายปีเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอและพร้อมจ่ายอย่างเพลิดเพลิน แต่ก็อาจตามมาด้วยหนี้สินก้อนโต อย่างไรก็ตาม ทุกคนสามารถฉลองกันได้โดยไม่ต้องก่อหนี้ ด้วยการวางแผนการใช้จ่ายให้เร็วที่สุด เพราะการหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ มีข้อดีหลายประการ เช่น

• #มีเงินออม เมื่อไม่มีภาระผ่อนชําระหนี้ รายได้หรือเงินเดือนที่ได้รับก็จะมีเหลือเก็บออมได้มากขึ้น ทําให้มีเงินออมไว้ใช้จ่ายในอนาคต

• #มีเสรีภาพทางการเงิน ไม่ต้องผูกมัดกับการผ่อนชําระหนี้รายเดือน จึงมีเสรีภาพในการใช้จ่ายเงินตามความต้องการ

• #ลดภาระค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ทําให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้

• #ลดความเสี่ยงจากหนี้สิน การไม่มีหนี้ทําให้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการผิดนัดชําระหนี้ ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อชีวิตและการเงินในอนาคตได้

ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้จึงเป็นวิธีการบริหารจัดการการเงินที่ดี เพื่อให้มีฐานะการเงินที่มั่นคงในอนาคต