ถ้ามีคนถามว่า สตาร์บัคส์ (Starbucks) ทำธุรกิจอะไร?

เชื่อว่าทุกคนคงตอบได้ไม่ยาก ก็ร้านกาแฟไงสิ

นั่นคือคำตอบที่ถูกครับ แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด

ถ้าดูจากภายนอก จำนวนสาขา 33,833 แห่งใน 80 ประเทศ พนักงาน 402,000 คน และรายได้กว่า 32,250 ล้านเหรียญในปี 2022 สตาร์บัคส์คือร้านกาแฟอันดับหนึ่งของโลก

แต่เมื่อดูเข้าไปข้างในให้ลึกอีกหน่อยพวกเขาคือ ‘ธนาคาร’ ที่ใหญ่มากๆ แห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘Starbucks Rewards Program’ อันชาญฉลาด

Starbucks Rewards Program

Starbucks Rewards Program คือระบบสมาชิกของสตาร์บัคส์ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2008 และจากรายงานของบริษัทปี 2022 พบว่ามีสมาชิกจำนวน 27.4 ล้านคนแล้ว แค่ในอเมริกาเพียงแค่ประเทศเดียว

ระบบนี้จะให้คนเอาเงินเข้าไปฝากในบัญชีของสมาชิกผ่านแอปฯ มือถือ แล้วใช้เงินตรงนั้นเพื่อเอาไปซื้อสินค้าในร้านสตาร์บัคส์ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ขนม หรือแก้วน้ำ ฯลฯ ในร้าน

แล้วทำไมสมาชิกถึงต้องเอาเงินไปไว้ในนั้นด้วย?

เพราะมันมีผลตอบแทนบางอย่างที่เรียกว่า ‘ดาว’ (stars) ครับ โดยดาวเหล่านี้เมื่อสะสมได้จำนวนหนึ่งก็เอาไปแลกเป็นส่วนลด เครื่องดื่มฟรี ขนม หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้ตามที่บริษัทเป็นคนกำหนดได้

สำหรับคนที่ดื่มกาแฟสตาร์บัคส์ทุกวันอยู่แล้ว การเอาเงินไปไว้ในนั้นเพื่อซื้อกาแฟก็เป็นสิ่งที่ตัดสินใจได้ไม่ยาก เพราะยังไงก็จ่ายทุกวัน ใช้เงินตรงนั้นจ่ายแล้วได้ดาวด้วย ส่วนใหญ่จึงเติมเงินเข้าไป บ้างก็หลักร้อย บ้างก็หลักพันหรือเป็นหมื่นก็มี

ในปี 2022 สตาร์บัคส์รายงานว่ามีเงินที่ฝากไว้ในโปรแกรมนี้ประมาณ 1,700 ล้านเหรียญหรือประมาณ 63,000 ล้านบาท

เมื่อเทียบเพียงแค่ขนาดของเงินฝากก้อนนี้ ถ้าสตาร์บัคส์เป็นธนาคารจะถือว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 545 จากธนาคารทั้งหมด 2,118 แห่งในอเมริกาเลยทีเดียว

แต่ยังไม่หมดแค่นั้นครับ

เราอาจจะคิดว่าก็เงินที่ลูกค้าเอามาฝากไว้ เดี๋ยวสุดท้ายก็กลายเป็นค่ากาแฟหมด สตาร์บัคส์ก็ไม่ได้อะไรอยู่ดีรึเปล่า? ก็…ไม่จริงซะทีเดียวครับ

ธนาคารทั่วไปจะเอาเงินที่ลูกค้ามาฝากเพื่อปล่อยกู้ให้กับลูกค้าคนอื่นๆ หารายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้เวลาคนที่กู้เงินเอาเงินมาคืน แล้วก็แบ่งดอกเบี้ยที่เก็บมา (รายได้) ระหว่างตัวเองกับคนที่เอาเงินมาฝากไว้กับธนาคาร

ทีนี้ของสตาร์บัคส์ก็คล้ายๆ กันครับ เพียงแต่พวกเขาไม่แบ่งกำไรให้คนที่เอาเงินมาฝากไว้นะครับ

แล้วสตาร์บัคส์สร้างรายได้จากเงินที่ลูกค้าเอามาฝากไว้ยังไง?

1. สละสิทธิ (Breakage)

ลูกค้าซื้อ Gift Card เป็นของขวัญให้เพื่อน หรือได้เป็นของรางวัล หรือ ฝากไว้แล้วลืม…ไม่ได้ใช้ แล้วเงินนั้นไปอยู่ในกระเป๋าใคร? ก็สตาร์บัคส์นั่นแหละครับ เฮ้ย…มันเยอะขนาดไหน? ในปี 2022 เงินก้อนนี้อยู่ที่ราวๆ 196 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7,200 ล้านบาทครับ

2. ดอกเบี้ยจากการลงทุนระยะสั้นความเสี่ยงต่ำ

ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.05% อาจจะดูไม่มากนะครับ แต่เมื่อเอาตัวเลขของเงินก้อนที่ลูกค้าฝากเอาไว้มาเงินก้อนนี้ก็ไม่น้อยเลย แถมดอกเบี้ยที่ได้รับมาก็ไม่ได้แบ่งคืนมาให้ลูกค้าเหมือนธนาคารทั่วไปด้วย

อีกอย่างหนึ่งถ้าเป็นธนาคาร ลูกค้าเอาเงินมาฝาก เมื่อถอนก็จะเอาเงินสดคืนไป แต่ถ้าเป็นสตาร์บัคส์ เอาเงินมาฝาก พวกเขาก็แค่คืนเป็นกาแฟ ขนม ของต่างๆ ในร้านคืนไปแทน

เงินก้อนนี้ 63,000 ล้านตรงนี้สตาร์บัคส์จะเอาไปขยายธุรกิจหรือทำอะไรก็ได้ เรียกว่าเป็นเงินก้อนที่ลูกค้าให้ยืมมา (โดยพวกเขาไม่ต้องไปยืมธนาคาร) โดยไม่เสียดอกเบี้ยอีกด้วย

เพราะฉะนั้นถ้ากลับมาตอบคำถามข้างบนอีกครั้งหนึ่งว่าสตาร์บัคส์ (Starbucks) ทำธุรกิจอะไร? ตอนนี้คงบอกได้ว่าสตาร์บัคส์ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นธนาคารแห่งหนึ่งเพียงแต่คนที่เอาเงินมาฝากไม่ได้ดอกเบี้ย แต่ได้เป็นกาแฟและดาวกลับคืนมาแทน