หลายคนอาจจะกำลังสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม เพราะมีข้อดีเป็นจำนวนมาก เช่น สามารถนำไปปล่อยเช่าเพื่อรับเงินสดในแต่ละเดือนแบบ Passive Income ได้ หากในอนาคตราคาของอสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้นก็สามารถขายทำกำไรได้ และในปัจจุบันผู้เช่าหลายๆคนชอบการใช้ชีวิตอย่างมี Lifestyle และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการอยู่อาศัย นอกจากนี้หากเป็นอสังหาริมทรัพย์ในย่านเศรษฐกิจชั้นนำย่อมมีความต้องการเช่าจากเจ้าของกิจการ คนวัยทำงาน รวมถึงชาวต่างชาติด้วย

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดมีเนียมนั้นหลักๆมีอยู่ 2 รูปแบบ

1. ซื้อมาปล่อยเช่า

วิธีการนี้เป็นวิธีการดั้งเดิม โดยนักลงทุนจะต้องศึกษารายละเอียดของโครงการที่กำลังสนใจ ว่าทำเลและบริเวณใกล้ๆย่านดังกล่าวเป็นอย่างไร มีโอกาสที่จะนำไปปล่อยเช่าให้ใครได้บ้าง รวมถึงคำนวณตัวเลขต่างๆเพื่อกำหนดค่าเช่าที่เหมาะสม หลังจากที่นักลงทุนได้ทำการซื้อและผ่อนคอนโดแล้วจะต้องหาผู้เช่าด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการประกาศตามเวปไซต์ต่างๆ ซึ่งหลังจากที่ได้ผู้เช่าแล้วก็จะมีการนัดทำสัญญาเช่า การวางเงินมัดจำต่างๆ และในช่วงที่กำลังเช่าอยู่ หากผู้เช่าได้พบปัญหาขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในห้อง เช่น เครื่องปรับอากาศเสีย เครื่องซักผ้าใช้ไม่ได้ หรือห้องอาบน้ำเกิดความเสียหาย นักลงทุนก็อาจจะต้องเข้าไปช่วยเหลือและคอยเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆให้ นอกจากนี้เมื่อเวลาผ่านก็ต้องเข้าไปดูแล ซ่อมแซม ปรับปรุงให้ห้องดูดีเพื่อนำไปปล่อยเช่าหรือขายในอนาคตต่อได้

2. Investment Property Program

วิธีการนี้เป็นการลงทุนในอีกรูปแบบ นักลงทุนจะนำเงินมาซื้อห้องของโครงการเพื่อนำไปปล่อยเช่า แต่ในกรณีนี้นักลงทุนไม่ต้องดำเนินการใดๆด้วยตัวเอง โครงการจะเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด ตั้งแต่การหาผู้เช่า การคิดค่าเช่า การทำสัญญาต่างๆ รวมถึงการดูผู้เช่าและทรัพย์สิน หากเกิดความเสียหายโครงการก็จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้แทนนักลงทุน และไม่ต้องกังวลว่าห้องจะถูกปล่อยเช่าหรือไม่เพราะโครงการจะคิดผลตอบแทนจากเงินลงทุนของเราเทียบกับมูลค่าโครงการทั้งหมด นอกจากนี้โครงการจะใช้บุคคลากรและทีมงานที่เชี่ยวชาญในการทำงานทั้งหมด ทำให้ช่วยในการสร้างมาตรฐานที่ดีในการให้บริการ โดยโครงการจะเก็บค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ นักลงทุนเพียงแค่รอรับรายได้จากผลการดำเนินงานของโครงการ จึงเป็นการลงทุนที่สะดวกสบายและสร้าง Passive Income ให้กับนักลงทุนอย่างแท้จริง

ลงทุนในทำเลไหนดี ?

หากพูดถึงทำเลที่น่าสนใจและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาวแล้วคงจะหนีไม่พ้นพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC เพราะเป็นขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้นักลงทุนพลาดไม่ได้ ดังนี้

  • มีการลงทุนขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก: บริเวณนี้จะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีเงินลงทุนเข้ามาพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ นั่นหมายความว่าจะมีทั้งนักลงทุน บริษัทและผู้ประกอบการ และจำนวนของผู้อยู่อาศัยที่เป็นแรงงานทักษะสูงที่จะเข้ามาทำงานมากขึ้นตามอีกด้วย ความต้องการต่างๆก็จะตามมา นั่นรวมถึงพื้นที่ในการอยู่อาศัยที่จะพัฒนาให้เติบโตและมีมูลค่าสูงมากยิ่งขึ้น
  • ใกล้กรุงเทพแถมเดินทางสะดวก: พื้นที่ของ EEC ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกผ่านเส้นทางของมอเตอร์เวย์และในอนาคตจะสามารถเดินทางผ่านรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อสนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ได้แก่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และ อู่ตะเภา ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติก็สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบาย
  • มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย : ในเขต 3 จังหวัดของเขตเศรษฐกิจนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายและมีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล อย่างระยอง สัตหีบ และยังสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะต่างๆได้ เช่น เกาะสีชัง เกาะล้าน เกาะเสม็ด รวมถึงการพักผ่อนไปกับแสงสีในยามราตรีและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่พัทยาได้เช่นเดียวกัน

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC นั้น หากลงทุนผ่าน Investment Property Program ก็จะสร้างความสะดวกให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องคอยเดินทางมาพูดคุยกับลูกค้าหรือจัดการดูแลอสังหาริมทรัพย์ที่เราเป็นเจ้าของ การลงทุนในรูปนี้จึงตอบโจทย์นักลงทุนจำนวนมากที่จะขยายโอกาสการลงทุนของตัวเองไปแหล่งเศรษฐกิจใหม่ๆ

The Hampton Suites Rayong โอกาสการลงทุนใน EEC

โครงการ The Hampton Suites Rayong เป็นโครงการ High rise 29 ชั้น บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 25 ไร่ ในจังหวัดระยอง ที่มีความพร้อมในการเป็นสถานที่พักผ่อนของผู้อยู่อาศัยในเขต EEC ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สปา สระว่ายน้ำ ห้องประชุม ห้องฟิตเนส ศูนย์บริการธุรกิจ และยังมี Rooftop ที่สามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามได้  ที่นี่จึงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆของนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ ในเขตเศรษฐกิจของพื้นที่ EEC นอกจากนี้ยังเป็นปลายทางของนักเดินทางจากต่างประเทศที่ต้องการมาพักผ่อนระยะยาวและใช้ Lifestyle อย่างมีระดับอีกด้วย

โครงการนี้สามารถลงทุนในรูปแบบ Investment Property Program โดยทาง Origin Property ได้พาร์ทเนอร์อย่างแฮมป์ตัน โฮเทล เมเนจเมนท์ ( HHM ) ที่มีประสบการณ์ดูแลธุรกิจโรงแรม 5 ดาวระดับโลกมาอย่างยาวนาน โดยการลงทุนจะเซ็นสัญญาจำนวน 10 ปี  และ ต่อสัญญาได้อีก 10 ปี ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะยาว 20 ปี นอกจากนี้โครงการนี้เป็นการบริหารงานแบบ Service Apartment ทำให้ผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าระยะยาวที่เข้ามาอยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่ EEC จึงทำให้สัญญาเช่าส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาว จึงทำให้นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ คาดการอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 5% - 9% ต่อปี จึงทำให้การลงทุนนี้มีความเสี่ยงต่ำ และหากนักลงทุนเห็นว่ามูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ มีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปก็สามารถขายทำกำไรได้เช่นกัน

โครงการนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงมายังอสัหาริมทรัพย์  หรือจะเป็นนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในรูปแบบค่าเช่า รวมไปถึงผู้ที่เป็นนักลงทุนระยะยาว ราคาเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ 2.99 ล้านบาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใคร

หากนักลงทุนท่านใดสนใจข้อมูล The Hampton Suites Rayong สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ https://bit.ly/2Wnvw2h

บทความนี้เป็น Advertorial