สำหรับใครที่เห็นนักลงทุนหรือใครก็ตามที่มี “Financial Freedom” แล้วชีวิตดูสุขสบาย หยุดมองภาพความสำเร็จเหล่านั้นก่อนครับ เพราะกว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ชวนอ่าน 3 บทเรียนจากประสบการณ์ตรง ก่อนมี “Financial Freedom” ต้องผ่านอะไรมาบ้าง? โดย “เชาว์ เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ครับ

1. Financial Freedom ไม่ใช่แค่เงิน

หลายคนอาจคิดว่า Financial Freedom เป็นเรื่องของเงินเพียงอย่างเดียว จะทำอย่างไรให้รวย? จะทำอย่างไรให้ได้เงินมา? หรือจะทำอย่างไรให้มีเงินเก็บใช้ในวัยเกษียณได้มากที่สุด? แต่ความจริงแล้ว กว่าจะเดินทางไปถึงจุดที่เรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงินนั้น ต้องแลกด้วยอะไรอีกมากมายเลยครับ เช่น การสร้าง Connection การได้พบปะผู้คน หรือแม้แต่การเข้าร่วมงานสังคมหรืองานสังสรรค์ต่างๆ ดังนั้น ในระหว่างทาง จงรีบตักตวงให้ได้มากที่สุด ทั้งผู้คน ความรู้ หรือสิ่งที่จะกลายมาเป็นประสบการณ์ในการสร้างอิสรภาพทางการเงินให้กับคุณได้ในอนาคต

2. เลือกที่ปรึกษาดี ชีวิตประสบความสำเร็จ

ข้อนี้ คุ้นๆ มั้ยครับ? มันเป็นข้อคิดที่เหมือนกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลกเคยแนะนำไว้ ซึ่งคุณเชาว์ก็เป็นนักลงทุนอีกหนึ่งท่านที่ให้ความสำคัญกับการเลือกที่ปรึกษาด้านการลงทุนให้กับตัวเองเช่นกัน

โดยการที่คุณจะเลือกใครสักคนมาเป็นที่ปรึกษานั้น คุณต้องรู้จักแนวคิดหรือ Background ทางด้านการลงทุนของคนๆ นั้นประมาณหนึ่งก่อน บางคนอาจเชียร์ในสิ่งที่เขาเลือกมา เพราะเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ หรือบางคนเชียร์ให้หลีกเลี่ยงหุ้นตัวนั้นตัวนี้ เพราะเคยเจอมากับตัวแล้วมันไม่ดี เมื่อมองย้อนกลับไปจากบทเรียนที่ 2 ใครจะรู้อนาคตของการลงทุนครับ จริงมั้ย? ดังนั้น คนที่คุณจะเลือกมาเป็นที่ปรึกษา ต้องเป็นทั้งคนเก่ง และคนที่หวังดี พร้อมที่จะชี้เส้นทางที่ถูกต้อง เพื่อสร้าง Financial Freedom ไปด้วยกันนั่นเองครับ

3. ในโลกการลงทุน ไม่มีใครรู้อนาคต

ในโลกของการลงทุน ถ้าใครเล่นหุ้นจะรู้เลยว่า เราไม่มีทางคาดเดาเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ไม่รู้ว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้น หุ้นตัวไหนจะลง ซึ่งเรื่องแบบนี้ สามารถแชร์ความรู้ร่วมกันระหว่างเพื่อน หรือคนเก่งๆ ที่อยู่ในแวดวงการลงทุนได้ครับ แต่มีข้อแม้คือคนเหล่านั้นจะต้องเป็นผู้หวังดี อยากเห็นคุณประสบความสำเร็จด้วยนะครับ