สวัสดีครับผม กลับมาพบกับผมนาย @TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิมเพิ่มเติมกับเรื่องภาษีกันอีกครั้ง แหม่.. ผ่านพ้นมาแปบเดียวก็เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์แล้วใช่ไหมครับ และมันก็ถึงเวลาเสียทีที่เราทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งกฎหมายก็กำหนดไว้ว่าให้ยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป นั่นแปลว่าเราต้องยื่นภาษีสำหรับปี 2558 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 นั่นเองครับ (แต่ถ้าเป็นการยื่นผ่านอินเตอร์เน็ตจะได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2559 ครับ)

สำหรับคนที่คำนวณแล้วต้องมีการจ่ายชำระภาษีเพิ่ม อันนี้ไม่ต้องแนะนำอะไรก็พร้อมใจที่จะยื่นภาษีกันในวันสุดท้ายอยู่แล้วใช่ไหมครับ ฮ่าๆๆๆ เพราะหลักการบริหารเงินที่ดี คือ เราต้องดึงมันให้อยู่ในกระเป๋านานที่สุดนั่นเอง (แป่ววว) แต่สำหรับคนที่คำนวณแล้วได้คืนภาษี วันนี้ผมมีเคล็ดลับดีๆมาฝากกันครับ โดยเป็นเทคนิคสั้นๆง่ายๆ 5 ข้อ ที่ใครทำแล้วก็รับรองว่าได้คืนภาษีเร็วแน่ๆครับ เอาล่ะเรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. เตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนยื่นแบบแสดงรายการ

ข้อนี้คือข้อแรกที่ง่ายที่สุดครับ เพราะถ้าเราต้องการขอคืนภาษี สิ่งหนึ่งที่เราทำใจต้องเจอแน่ๆคือการติดต่อจากพี่ๆสรรพากร ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าพี่แกจะขอเอกสารอะไรบ้าง อาจจะมีทั้ง หลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย หลักฐานการซื้อ LTF - RMF - ประกันชีวิต ใบเสร็จค่าลดหย่อนต่างๆ ที่เราได้แจ้งข้อมูลไป ดังนั้นสิ่งที่ต้องพร้อมแรกสุดคือเรื่องเอกสารครับ พรี่หนอมฟันเฟิรม์!!

2. ยื่นแบบให้ไวที่สุด

หลังจากที่เอกสารพร้อมแล้ว สิ่งต่อมาคือการยื่นแบบแสดงรายการครับ ซึ่งเมื่อก่อนผมมักจะแนะนำให้ยื่นแบบผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่เวปไซด์กรมสรรพากร เพราะว่าจะได้คืนเร็วกว่าแบบกระดาษ แต่จากประสบการณ์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมบอกเลยครับว่าไม่ว่าจะเป็นแบบแสดงรายการแบบไหน ก็ขอให้ยื่นไวที่สุดก็พอครับ (หากใครที่ต้องการยื่นแบบกระดาษแล้วขี้เกียจกรอกเอง ผมขอแนะนำบริการดีๆจากทาง ITAX ไว้ ณ ที่นี้เลยครับ #พื้นที่โฆษณา)

3. หมั่นคอยตรวจสอบสถานการณ์ยื่นแบบแสดงรายการ

หลังจากที่ยื่นแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมาคือเราต้องแน่ใจครับว่า แบบแสดงรายการของเรานั้นถูกส่งให้กับพี่ๆสรรพากรเรียบร้อยเช่นเดียวกัน โดยสามารถตรวจสอบได้ที่เวปไซด์กรมสรรพากรอีกนั่นแหละครับ หรือจะใช้ Application ตรวจสอบอย่าง Check Check ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ

ตรงนี้ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมสักเล็กน้อยครับว่า โดยปกติแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยื่นแบบแสดงรายการได้ภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ยื่นแบบแสดงรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถ้าแบบของเราเกิดสถานะมีปัญหา ก็ต้องรีบจัดการแก้ไขให้ไวนะครับ

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเจอมาตอนที่ยื่นแบบผ่านอินเตอร์เน็ตก็คือ ไม่มีข้อความ SMS แจ้งมาบอกที่โทรศัพท์มือถือว่าพี่ๆ สรรพากรขอเอกสารเพิ่มครับ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะเป็นความผิดพลาดของผมเองที่กรอกเบอร์โทรศัพท์ผิดหรือเปล่า (ไม่แน่ใจ) หรือว่าเกิดจากระบบอะไรก็ตาม แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ผมคอยตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอก็เลยรู้ว่าถึงเวลาต้องส่งเอกสารแล้วครับ

4. ส่งเอกสารเพิ่มอย่างไว เมื่อได้รับการร้องขอ

แหม่ ข้อนี้พูดเป็นภาษาราชการกันเลยทีเดียวครับ เพราะถ้าหากเราโดยเรียกเอกสารตรวจสอบแล้วล่ะก็สิ่งที่ต้องรีบทำ คือ ต้องส่งเอกสารอย่างไวครับ ซึ่งถ้าหากใครเตรียมตัวพร้อมตั้งแต่ข้อแรกก็จะได้เปรียบมากๆเลยล่ะครับ ซึ่งทางเลือกในการจัดส่งเอกสารให้กับพี่ๆสรรพากรนั้น มีอยู่ 3ทางด้วยกัน คือ ส่งทางเวปไซด์ ส่งทาง Fax และส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะสะดวกยังไงนะครับ แต่จากประสบการณ์ที่แฟนเพจ TAXBugnoms หลายๆคนเจอมาก็คือ บางคนส่งทาง Fax แล้วได้คืนภาษีไวกว่าส่งทางเวปไซด์ เพราะว่าพี่สรรพากรเห็นไวกว่าและไม่ต้องเสียเวลาปริ้นท์ออกมาตรวจสอบ (แป่วววว)

ตรงนี้ผมมีข้อควรระวังนิดหน่อยที่ผมอยากจะเพิ่มให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆฟังก็คือ หากใครเลือกส่งเอกสารตัวจริงทางไปรษณีย์ ก็อย่าลืมสำเนาเก็บหลักฐานไว้ด้วยนะครับ เพราะถ้าหากสูญหายและมีปัญหาล่ะก็คราวนี้ลำบากแน่ๆเลยล่ะคร้าบบ

5. ติดตามติดต่อพี่สรรพากรเรื่อยๆ

อย่างที่สุภาษิตไทยชอบพูดครับ ไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือได้อย่างไร ไม่โทรหาพี่สรรพากรไปก็อาจจะไม่ได้คืนภาษีเช่นเดียวกัน  (หราาา) ถ้าหากทำตามข้อ 1-4 ไปแล้วสักพัก แต่ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ตรวจสอบสถานะแล้วก็พบว่าไม่ได้ไปต่อ แบบนี้อย่ารออย่างเดียวนะครับ ผมแนะนำให้โทรศัพท์ติดต่อโดยตรงได้เลยครับ เพราะมีคนดูแลเรื่องของเราอยู่แน่ๆ ถ้าหากสังเกตดีๆเราจะเห็นเบอร์ติดต่ออยู่ที่ด้านล่างในการตรวจสอบสถานะหรือใบนำส่งเอกสารครับ ทีนี้แหละครับโทรติดตามไว้เลยครับว่าใครดูแลเราและต้องการเอกสารอะไรเพิ่มบ้าง เพราะยิ่งช่วยเหลือกันไปให้พี่สรรพากรทำงานง่ายแค่ไหน เราก็ยิ่งได้คืนภาษีเร็วขึ้นเท่านั้นครับ

โอเคครับผม ... ทั้งหมดนั้นคือ เทคนิคขอคืนภาษีให้ไว 5 ข้อสั้นๆง่าย ที่ผมเอามาฝากกันครับ แต่ก่อนจากกันไป ผมขอฝากเทคนิคลับอีกข้อหนึ่งที่ผมใช้และคิดว่าจะเป็นประโยชน์มากๆ นั่นคือ การบันทึกรายการรายรับ รายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย และรายการลดหย่อนต่างๆ ไว้ให้ครบถ้วนตั้งแต่แรก เพราะถ้าหากบันทึกข้อมูลส่วนนี้ไว้เรียบร้อย เราสามารถนำข้อมูลส่วนนี้ไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ก่อน แล้วค่อยติดตามเอกสารเพิ่มเติมต่างๆ เช่น เอกสารการซื้อ LTF RMF หรือเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่าย (สำหรับมนุษย์เงินเดือน) หลังจากนั้น (เพราะยังไงๆเราต้องรอพี่สรรพากรตรวจสอบอีกตั้ง 3 วันทำการอยู่ดี) แบบนี้ก็ช่วยประหยัดเวลาและวิธีไปได้เช่นเดียวกันครับ

สุดท้ายนี้ สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ (อีกแล้ว) ก็คือ สิ่งสำคัญที่ทำให้เราขอคืนภาษีได้ไวนั้น มันอยู่ที่ความพร้อมที่เราได้เตรียมตัวมาตั้งแต่แรกครับ ถ้าหากเรามีการวางแผนภาษีที่ดี และมีการเตรียมเอกสารที่ถู&#