เมื่อวันก่อนมีเพื่อนทักมาถามว่า “มึง...ซื้อ iPhone 15 ดีไหมวะ?”

เพื่อนคนนั้นรู้ครับว่าผมเป็นหนึ่งในคนที่ใช้และติดตามผลิตภัณฑ์ของ Apple มานานหลายปี และคงอยู่อย่างนี้ไปอีกนาน (ซึ่งด้วยระบบนิเวศของ Apple ที่ทำให้หลุดออกยากด้วย) จึงอยากให้ผมช่วยแนะนำหน่อย

ผมเลยหยิบเอาประเด็นคำถามนี้มาเขียนเผื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ด้วยครับ

แต่ก่อนจะไปต่อ สำหรับคนที่ ‘ตัดสินใจแล้ว’ ว่าจะซื้อ : อยากได้ จะเอาให้ได้ มันคือสิ่งที่ตามหา มันคือความสุข ฯลฯ ไม่ว่ายังไงก็จะซื้อ พร้อมที่จะซื้อ มีเงิน (หรือไม่มี แต่รูดเอา) อันนี้ผมคงไม่อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจหรือไขว้เขวได้ ก็ทำตามที่ตัวเองต้องการครับ

แต่สำหรับคนที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะซื้อ iPhone 15 รุ่นใหม่ล่าสุดดีรึเปล่า? ผมอยากให้ลองมาชวนตั้งคำถาม 5 ข้อนี้กันดูก่อนตัดสินใจครับ

1. อยากได้ กับ จำเป็น

ทุกคนอยากได้รุ่นใหม่ล่าสุดของ iPhone อยู่แล้ว แต่ถามว่าทุกคนจำเป็นต้องใช้รุ่นใหม่ล่าสุดไหม? ก็คงไม่

อย่างผมเองเพิ่งอัปเกรดจาก iPhone 11 มาเป็น iPhone 14 เมื่อปีก่อน การอัปเกรดเป็น iPhone 15 ดูจะไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก

ถามผมว่าอยากได้ไหม, อยากได้สิ! แต่ถามว่าจำเป็นไหม...ไม่จำเป็นครับ

ลองดูครับว่าที่เราใช้อยู่มันยังตอบโจทย์ชีวิตอยู่รึเปล่า ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ได้นั้นมีประโยชน์มากแค่ไหน จะได้ใช้รึเปล่า

บริบทของแต่ละคนก็แตกต่างกัน บางคนก็ต้องใช้ iPhone 15 เพื่อทำงาน อาจจะเป็นนักรีวิวหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่ถ้าตัวเดิมยังใช้ได้มันอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ครับ

2. ตอนนี้ใช้ iPhone รุ่นไหนอยู่?

ถ้าเราใช้ iPhone 14, 13 หรือ แม้แต่ 12 ก็ยังถือว่าของที่มีในมือนั้นไม่ได้เก่าอะไร การอัปเกรดในตอนนี้อาจจะเป็นการใช้ของที่มีอยู่ยังไม่คุ้มสักเท่าไหร่ ถ้าคุณถือ iPhone X หรืออะไรต่ำกว่านั้น (อายุเยอะมากกว่า 5 ปี) ก็อาจจะลองดูทางเลือกของ iPhone 15 ที่ตอบโจทย์ได้ครับ

3. มันอัปเดต iOS ได้อยู่ไหม?

iPhone ถือว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งที่ปัญหาไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ ใช้แบบไม่สมบุกสมบันมากก็อยู่ได้หลายปี แต่ถึงยังไงก็ตามจุดหนึ่งมันก็จะเก่าอยู่ดีตามอายุขัย โดยเฉพาะเมื่อระบบปฏิบัติการอย่าง iOS อัปเดตอยู่เรื่อยๆ ทุกปี ทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่าไม่สามารถอัปเดตต่อได้

iOS 17 จะรองรับตั้งแต่ iPhone Xr ขึ้นมา นั่นหมายความว่า ถ้าเป็น iPhone X ที่เปิดตัวในปี 2017 จะไม่ได้ไปต่อ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะตามมาคือผู้ใช้ iPhone X จะมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูลต่างๆ เข้ามาร่วมด้วย เพราะพวกซอฟต์แวร์อัปเดตจะมาพร้อมกับการปิดช่องโหว่ที่เหล่าแฮกเกอร์จะโจมตีด้วย

ถ้าเมื่อไหร่ที่มันอัปเดตไม่ได้ อาจจะต้องเริ่มลองดูทางเลือกใหม่ๆ ไว้ด้วยครับ

4. ฟีเจอร์อะไรบ้างที่คุณอยากได้แล้วไม่มี?

iPhone 13 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ 120Hz, iPhone 14 Pro เปิดตัวพร้อมกับ Dynamic Island ที่ปรับส่วนรอยบากจากรุ่นก่อนๆ ให้กลายเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนอยากได้ หรืออย่าง iPhone 15 Pro เปลี่ยนปุ่ม Mute ให้กลายเป็นปุ่ม Action

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้ iPhone รุ่นใหม่น่าสนใจเสมอ เพียงแต่ว่าคุณต้องชั่งใจดูด้วยครับว่ามันจำเป็นแค่ไหนกับการอัปเกรด หากไม่จำเป็นก็ข้ามไปก่อนได้

5. งบมีเท่าไหร่?

นี่จะเป็นเรื่องที่น่าจะสำคัญสุดแล้วในลิสต์นี้ เงินมีเท่าไหร่? มีเงินพอไหม?​

อยากให้พิจารณาข้อนี้ให้ดีๆ ครับ

เพราะถ้าเงินไม่มี แล้วซื้อ iPhone เครื่องใหม่ไม่ได้ โลกไม่ได้จะแตกครับ ถ้ามือถือในมือมันยังใช้งานได้และไม่เก่าจนเกินไป แบตเตอรี่ไม่บวม ซอฟต์แวร์ก็ยังอัปเดตได้ การไม่เป็นหนี้ หรือรูดบัตรแบกรายจ่ายเดือนละหลายพันอีกเป็นปีอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

อย่างที่บอกครับว่า สำหรับคนที่ ‘ตัดสินใจแล้ว’ ว่าจะซื้อแล้ว ยังไงก็คงจะซื้อ

แต่ถ้าแนะนำอยากลองให้ทำแบบนี้ครับ ให้ลองเก็บเงินเดือนละ 3,500 - 5,000 บาท ไปอีก 10 - 12 เดือนข้างหน้า เราก็จะอัปเกรดเป็น iPhone รุ่นใหม่โดยไม่ต้องลำบากมากแล้ว (ถึงตอนนั้นถ้าไม่ซื้อเครื่องใหม่ เราก็มีเงินก้อนเพื่อไปทำอย่างอื่นด้วย)

สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปการอัปเกรดทุก 3-5 ปี ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะฟีเจอร์ใหม่ๆ ไม่ได้สร้างความแตกต่างมาก แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้ทุกฟีเจอร์ของ iPhone หรือใช้มันทำงานบางอย่าง การอัปเกรดทุกๆ 1-3 ปีก็เป็นเรื่องไม่แปลกอะไร

สุดท้ายแล้ว ถ้ารอได้ก็รอครับ เพราะทุกปี Apple จะออก ‘iPhone ที่ดีที่สุด’ เสมอครับ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะปีหน้าหรือปีต่อไป เราก็จะได้ iPhone ที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน