แม้ผู้หญิงในปัจจุบันจะมีระดับการศึกษาและบทบาททางอาชีพที่สูงขึ้น แต่ก็ยังคงเผชิญกับช่องว่าง ‘ค่าจ้าง’ เมื่อเทียบกับผู้ชาย การสำรวจของ Pew Research สำนักวิจัยด้านสังคมวิทยาพบว่า แม้ในยุคนี้ ผู้หญิงจะเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงแบกรับภาระในบ้านเท่าเดิม

“แม้ในปัจจุบัน ผู้หญิง และผู้ชายจะมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น แต่หน้าที่ในบ้านยังถูกจำกัดด้วยภาพจำของบทบาททางเพศแบบเดิมๆ ”

- ริชาร์ด ฟราย นักวิจัยอาวุโสจาก Pew Research -

ส่งผลให้ผู้หญิงมีโอกาสในหน้าที่การงานน้อยลง และเดินหน้าสู่ความมั่งคั่งทางการเงินได้ช้ากว่าผู้ชาย ซึ่งทำให้ผู้หญิงเกิดความเครียดเกี่ยวกับเงิน และอนาคตของตัวเองมากขึ้น

สำหรับการจัดการกับความกังวลตรงนี้ aomMONEY ได้ไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจว่าการสร้าง ‘กองทุนสำรองยามฉุกเฉิน’ ช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกคลายความกังวลในชีวิต และอนาคตของตัวเองลงได้ เพราะมีความมั่นคงทางการเงินคอยหนุนหลังเอาไว้อยู่ วันนี้จึงอยากชวนมาดูแนวทางการสร้างเงินสำรองยามฉุกเฉินเพื่อลดความกังวลด้านการเงินสำหรับคุณผู้หญิงกัน

🛡️ เมื่อความไม่มั่นคงสร้างความกังวลมากกว่าที่คิด ‘เงินสำรองยามฉุกเฉิน’ จะทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

ข้อมูลจากรายงานของ Fidelity Investments บริษัทบริการทางการเงินข้ามชาติของอเมริกา พบว่าผู้หญิงถึง 93% รู้สึกเครียดเมื่อพูดถึงเรื่องการเงิน โดยผู้หญิงรู้สึกไม่มั่นคงทางการเงิน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต และสุขภาพกาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุเมื่อแยกทางจากคู่สมรส หรืออยู่คนเดียว

หนึ่งทางแก้ที่พบในการศึกษา คือการมี ‘กองทุนสำรองเงินฉุกเฉิน’ เพราะทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นคง และอิสระทางการเงินมากขึ้น ซึ่งช่วยลดความเครียด และความกังวลลงได้มาก

ลอร์นา คาพุสตาร์ หัวหน้าฝ่ายจาก Fidelity แนะนำให้มีเงินสำรองเผื่อค่าใช้จ่ายไว้อย่างน้อย 3-6 เดือน โดยกันรายได้ส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินออมโดยอัตโนมัติ และหากยังไม่พร้อมบรรลุเป้าหมายการออมเต็มรูปแบบในช่วงแรก เราสามารถเริ่มบริหารจัดการเงินทีละไม่มากก่อน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณเมื่อเวลาผ่านไป

"เริ่มต้นด้วยก้าวเล็กๆ" และ "จัดสรรงบประมาณให้เงินนั้นเข้ากองทุนฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอ"

💰 อยากมั่นใจ และมั่นคงทางการเงิน ให้แบ่งรายได้เป็น 4 ถัง

ลอร์นา แนะนำให้จัดสรรเงินรายได้ของเราออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
➡️50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่นค่าเช่า อาหาร
➡️15% สำหรับเงินออมเพื่อวัยเกษียณ
➡️5% สำหรับเงินสำรองฉุกเฉิน
➡️30% ใช้เป็นค่าใช้จ่ายตามดุลยพินิจ

นอกจากนี้ จูดิธ ลี รองประธานอาวุโส และที่ปรึกษาการบริหารความมั่งคั่งของ Merrill Lynch ระบุว่า การวางแผนทางการเงินระยะยาวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ผู้หญิงจึงควรวางแผนเกี่ยวกับเงินออม การลงทุน และการเตรียมพร้อมเพื่อความมั่นคงในวัยเกษียณอายุด้วยเช่นกัน

การมีวินัยและยึดมั่นในแผนทางการเงินส่วนบุคคลจะนำไปสู่ความรู้สึกมีอำนาจและคุณค่าในตนเอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้หญิงมีความมั่นคง และปลอดภัยจากความกดดันทางการเงินได้

เรียบเรียง: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช