ปัญหาหนึ่งของนักลงทุนในตลาดหุ้นไม่ว่ายุคสมัยไหนคือการคัดกรองหุ้นที่จะสร้างผลกำไรที่สวยงามให้กับเงินทุนที่ทุ่มลงไป และเราก็มักจะเจอคำถามหนึ่งเหมือนเป็นทางแยกที่นักลงทุนสักคนต้องเลือกว่าจะไปเป็นนักลงทุนทางเทคนิค (Technical) ที่เน้นเรื่องการพฤติกรรมราคาหุ้นและภาวะตลาดเป็นหลัก หรือจะเป็นทางพื้นฐาน (Fundamental) ที่ดูปัจจัยพื้นฐานของกิจการเป็นหลัก

วิลเลียม เจ. โอนีล (William J. O’Neil) ผู้ก่อตั้งสื่อหนังสือพิมพ์การลงทุน Investor’s Business Daily และหนึ่งในบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์มาวิเคราะห์หุ้นในยุคแรกๆ พยามยามแก้ไขปัญหานี้และสร้างกลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่างพื้นฐานหุ้นและเทคนิคเข้าด้วยกันขึ้นมาชื่อว่า “CAN SLIM” ซึ่งระบุคุณลักษณะ 7 ประการของหุ้นที่จะเป็นผู้ชนะในตลาดในช่วงที่กำลังจะมาถึง

โอนีลถือกำเนิดในปี 1933 เรียนจบด้านธุรกิจจาก Southern Methodist University ในปี 1955 และเริ่มลงทุนเต็มตัวในปี 1958 ในฐานะนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ Hayden, Stone & Company ซึ่งตรงนี้เองที่เขาได้เริ่มเรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์และกลายเป็นพื้นฐานในการสร้างกลยุทธ์การลงทุนของตัวเองขึ้นมา

ความสำเร็จครั้งใหญ่ของโอนีลเกิดขึ้นในปี 1962-1963 ที่เงินลงทุนจาก 5,000 เหรียญ กลายเป็น 200,000 เหรียญ หรือเติบโตกว่า 400% ภายในหนึ่งปี หลังจากนั้นเขาก็ออกมาก่อตั้งโบรกเกอร์ของตัวเองชื่อว่า William O’Neil & Co. ในปี 1963 และต่อมาเขาได้ก่อตั้งกองทุน O’Neil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 1967 สร้างผลตอบแทนได้มากถึง 116% (แต่หลังจากนั้นผลตอบแทนก็ไม่ได้สูงเท่าเดิมและหยุดไปในปี 1975)

ในปี 1984 โอนีล ก่อตั้ง Investor’s Business Daily สื่อหนังสือพิมพ์ที่เต็มไปด้วยกราฟและข้อมูลที่ใช้หลักการคัดหุ้นแบบ CAN SLIM (กลายเป็นสื่อดิจิตัลเต็มตัวในปี 2016) และเขียนหนังสือชื่อดังอย่าง “How to Make Money in Stocks: A Winning System in Good Times and Bad” (มีแปลไทยชื่อ ‘CAN SLIM คัดหุ้นชั้นยอด ด้วยระบบชั้นเยี่ยม’)

ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2023 โอนีลเสียชีวิตด้วยวัย 90 ปี จากความชราภาพตามกาลเวลา แม้ช่วงหลังเราอาจจะไม่ได้เห็นผลงานของเขามากนัก แต่แนวคิดหลักการคัดหุ้นแบบ CAN SLIM ของเขาก็ยังทรงอิทธิพลและถูกนำมาใช้อยู่เป็นประจำ

สำหรับนักลงทุนคนไหนที่อยากรู้ว่าหุ้นตัวไหนเข้าข่ายบ้างสามารถเปิดแอปฯ Streaming ของตัวเองขึ้นมาได้ เข้าไปที่ “Menu -> Stock Screener -> CAN SLIM” ตรงนี้จะบอกเลยว่ามีหุ้นตัวไหนที่ผ่านการคัดเลือกด้วยวิธีการของโอนีลบ้าง โดยใน Streaming อธิบายเอาไว้ว่า “เป็นการค้นหาหุ้นที่มีผลประกอบการดีและมีอัตราเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Growth) อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวของราคาเพิ่มขึ้นสูงกว่าภาวะตลาด”

แล้วหลักการคัดเลือกมีอะไรบ้าง (ตัวเลขตรงนี้อาจจะแตกต่างกับใน Streaming)

C = Current Earnings : ผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดกำไรเพิ่มขึ้น > 25% จากปีก่อนหน้า

A = Annual Earnings : เติบโตติดต่อกัน 3 ปี > 25% (ถ้าให้ดีก็ 5 ปี) และ ROE > 15%

N = New Product / Service / High : มีสินค้าใหม่ บริการใหม่ ที่แตกต่าง ที่ดันราคาขึ้นสูง

S = Supply & Demand : หุ้นขนาดเล็กที่มีปริมาณการซื้อขายสูงๆ ให้ดู Volume การซื้อขายว่าสูงขึ้นกว่าในอดีต หรือลองดูหุ้นที่มี Free Float ต่ำ มีรายย่อยถือไม่เยอะมาก เพื่อให้ราคายกเร็วมากขึ้น (ตรงนี้เข้าไปดูที่เว็บ set ได้ครับ)

L = Leader or Laggard : เลือกหุ้นผู้นำตลาดเท่านั้น ขึ้นได้เร็วกว่าคนอื่น ลงได้ช้ากว่าคนอื่น

I = Institutional Sponsorship : ต้องมีรายใหญ่อย่างกองทุนรวมหรือนักลงทุนสถาบันสนใจด้วย

M = Market Direction : ต้องใช้เทคนิคการดูเทรนด์ตลาดเข้ามาช่วยว่าเป็นขาขึ้น

แน่นอนว่ากลยุทธ์การลงทุนใดก็ตามมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคหรือพื้นฐานหรือแม้แต่การผสมผสานกันอย่าง CAN SLIM แต่สิ่งที่โอนีลได้สร้างขึ้นมานั้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุน

แม้จะไม่มีใครทราบว่าตลาดหุ้นจะไปทางไหน แต่อย่างน้อย ๆ ความรู้ที่โอนีลทิ้งไว้สำหรับคนรุ่นหลังก็ยังคงกำหนดแนวทางการลงทุนของคนรุ่นใหม่ ๆ ต่อไปอีกหลายปี