จากประเด็นที่ ITD เลื่อนจ่ายชำระหนี้หุ้นกู้ ไม่มีเงินจ่ายให้กับ Supplier รวมถึงไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน และไม่นำส่งงบการเงินในปี 2566 ล่าสุด วันที่ 1 มี.ค.67 ITD ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP แล้ว

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ปัญหาเหล่านี้ล้วนมาจากสาเหตุหลัก คือ “บริษัทขาดสภาพคล่อง”

บทความนี้จะพาทุกคนไปดูว่า สัญญาณอันตรายที่สังเกตได้จากงบการเงินของหุ้น ITD มีอะไรบ้าง??

เริ่มจากสัญญาณที่บ่งบอกว่า ITD เริ่มขาดสภาพคล่อง นั่นก็คือ

อัตราส่วนสภาพคล่อง (สินทรัพย์หมุนเวียน/หนี้สินหมุนเวียน) 64,779.24 ล้านบาท/71,009.67 ล้านบาท = 0.91 ซึ่งน้อยกว่า 1

ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า กิจการมีสินทรัพย์ที่แปลงเป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปี น้อยกว่าหนี้สินที่ต้องชำระภายใน 1 ปี หรือมีสินทรัพย์ระยะสั้นไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ระยะสั้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน เป็นบวก สะท้อนว่ากิจการยังมีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

และวงจรเงินสดเป็นลบ นั่นสะท้อนว่า กิจการได้รับเงินจากการขายสินค้าก่อนที่จะนำไปชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้การค้า

หากดูเพียงแค่ 3 อัตราส่วนนี้ ก็ยังไม่มีสัญญาณอันตรายเท่าไหร่นัก

มาดูมุมความเสี่ยงทางการเงินกันบ้าง

ดูได้จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio)

ITD มี D/E ratio ที่สูงเมื่อเทียบกับเพื่อนที่ทำธุรกิจคล้ายกัน

โดย ITD มี D/E ประมาณ 6-9 เท่า ในขณะที่เพื่อนในอุตสาหกรรมอย่าง CK STEC SRICHA มี D/E ไม่เกิน 2 เท่า

เมื่อไปเจาะ D/E ratio ก็พบว่า หนี้สินหลักที่ต้องชำระภายใน 1 ปี ของ ITD คือ เจ้าหนี้การค้า 26,000
ล้านบาท

รองลงมาคือ หนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี 15,000 ล้านบาท

และเมื่อเราไปดูเงินสดของ ITD ก็พบว่า ITD มีเงินสดเพียง 4,000 ล้านบาท
ซึ่งลำพังเพียงแค่เงินสด คงไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้อย่างแน่นอน

เมื่อไปเจาะดูสินทรัพย์หมุนเวียนหลักอื่นๆ ก็พบว่า ITD มี

สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา - หมุนเวียน 35,000 ล้านบาท
หลักๆ เป็นรายได้ที่รอการชำระจากโครงการหนึ่งกับรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเรียกร้องสิทธิเรียกเก็บเงินค่าก่อสร้างในส่วนที่เหลือ
ส่วนนี้ก็ดูเป็นส่วนที่คุมได้ยาก อาจต้องใช้เวลาในการรอ

ต่อมาคือ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น - สุทธิ 10,000 ล้านบาท และสินค้าคงเหลือ 7,000 ล้านบาท

เมื่อดูความเป็นไปได้ที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่า ITD ต้องพยายามเรียกเก็บเงินลูกหนี้การค้าให้ได้จึงจะช่วยพยุงสภาพคล่องนี้ไปได้

แต่หากไม่ได้จริงๆ วิธีที่จะได้เงินสดมาก็คือ การออกหุ้นกู้เพิ่ม กู้ยืมเงินเพิ่ม หรือ ระดมทุนจากนักลงทุนเพิ่ม แต่ทั้งหมดนี้ก็คงไม่ง่าย ล้วนแต่ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ

กรณีออกหุ้นกู้ > นักลงทุนก็อาจจะคิดหนัก เพราะ ITD ก็เพิ่งเลื่อนชำระหนี้ผู้ถือหุ้นกู้

กรณีกู้ยืมเงิน > ผู้ให้กู้ก็คงต้องพิจารณาความเสี่ยงอย่างหนักเช่นกัน เพราะตอนนี้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ ITD ก็อยู่ในระดับสูงแล้ว

(ล่าสุดทาง ITD ก็ออกมาแถลงว่ากำลังเจรจาเรื่องการกู้ยืมเงินครั้งใหม่ ซึ่งหากคุยกันเสร็จเรียบร้อย ปัญหาอาจจะคลี่คลายภายใน 2-3 เดือน)

ในส่วนของผลประกอบการ ITD ยังคงขาดทุนมาอย่างยาวนาน

แต่ล่าสุด งบการเงินงวด 9 เดือน ปี 2566 พลิกกลับมาเป็นกำไรได้ อย่างไรก็ตามเราต้องติดตาม งบเต็มปี 2566 กันต่อไป ซึ่งตอนนี้ ITD ยังไม่นำส่งงบการเงิน (ตอนนี้คาดว่าสิ้นเดือนมีนาคม)

จากทั้งหมดนี้จะเห็นว่า ปัญหาหลักของ ITD คือ เรื่องขาดสภาพคล่อง ทำให้กระทบผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วน เช่น พนักงาน เจ้าหนี้ ปัญหานี้จะผ่านพ้นไปได้หรือไม่ พวกเรานักลงทุนก็คงต้องติดตามกันต่อไป

เป็นกำลังใจให้ ITD และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้โดยเร็ว

เขียนและเรียบเรียงโดย : แพร-พัทธนันท์ เตชะเสน, CISA2 เจ้าของเพจ Investment Frappe และผู้เขียนหนังสือ 'งบการเงินหุ้น ที่คุณต้องอ่าน'