เช่นเดียวกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงคนอื่นๆ ‘ปิติ คงเดช’ มีความฝันในการเปิดธุรกิจของตัวเอง และเติบโตขึ้นบนความสามารถที่ได้ร่ำเรียนมา แต่ในฐานะที่เป็นทายาท รุ่นที่ 3 แห่ง ‘บริษัท ห้างยาไทย จำกัด’ เจ้าของยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ปิติจึงเข้าใจถึงภาระหน้าที่ในการสานต่อธุรกิจครอบครัว และขึ้นเป็นหนึ่งในผู้บริหารอย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา

ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ร่วมกับทายาทคนอื่นๆ ปิติพาแบรนด์เดินหน้าสู่ ‘ยุคสมัยใหม่’ ของธุรกิจครอบครัว เพราะหากยังปล่อยยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน ให้เป็นสมบัติจากอดีต รักษาความเป็นแบรนด์เก่าแก่กว่า 79 ปี เอาไว้ด้วยความคิดว่าเป็น ‘เอกลักษณ์ที่ต้องรักษา’ เช่นเดียวกับแบรนด์เก่าแก่อื่นๆ สิ่งที่ปิติมองเห็นคือ การเดินหน้าสู่ความคร่ำครึ และกลายเป็นสินค้าหลงยุคบนชั้นวางที่รายล้อมด้วยสินค้ายุคใหม่ ซึ่งคุณปิติไม่ต้องการแบบนั้น

✨ กลยุทธ์รีแบรนด์ดิง สู่ความเป็นยุคใหม่ เข้าใจโจทย์ความต้องการลูกค้ายุคปัจจุบัน

“การตลาดยากเสมอ เพราะเป็นวิธีการเข้าใจคนอื่น คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ยิ่งลูกค้าคือผู้มีพระคุณ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องเริ่มจากพวกเขาก่อนหา insight ให้เจอ” คุณปิติ ให้สัมภาษณ์กับ Bangkok Biznews

เพื่อจัดสรรส่วนงานให้ดำเนินไปอย่างมั่นคง บริษัท ห้างยาไทย จำกัด ที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มบริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ ซึ่งมี บริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ เป็นบริษัทวิจัย พัฒนาและผลิตยาแผนปัจจุบัน ได้แตกตัวเป็นบริษัท บี-เมด ฟาร์มาซูติคอล เพื่อทำด้านการตลาดโดยเฉพาะ โดยคุณปิติเป็นหัวเรือใหญ่ในบี-เมด แห่งนี้

ในยุคสมัยของปิติ ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินได้รีแบรนด์ดิงครั้งใหญ่ หลีกหนีความคร่ำครึของ ‘ผลิตภัณฑ์ยา’ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่คนยุคใหม่จะนึกถึงเมื่อต้องการ

เริ่มตั้งแต่การปรับแพคเกจจิงให้มีความสวยงาม โดยยังคงเรื่องการใช้งานง่าย ถือสะดวก และสามารถรักษาคุณภาพตัวยาเอาไว้ได้ ไปจนถึงการออกแบบฟอนต์ของแบรนด์ใหม่ และแตกไลน์ตัวผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 ขนาด คือ 200 ml และ 50 ml สำหรับการพกพา

นอกจากนี้ ยังแสดงภาพลักษณ์ของแบรนด์ยุคใหม่สู่สายตาคนทั่วไป ด้วยการใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นคนรุ่นใหม่ เช่น มายด์-วิรพร จิรเวชสุนทรกุล และมิน พีชญา วัฒนามนตรี

🥇 ขยายอาณาจักรสู่อาเซียน สร้างการเติบโตสู่ ‘ยาธาตุน้ำขาวเบอร์หนึ่ง’

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ชูโรง ของ บอส ฟาร์มาแคร์ มีอยู่ 2 ตัว คือ ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เฮโมวิต โดยในอนาคตทางแบรนด์เตรียมแตกไลน์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งยังเตรียมบุกตลาดอาเซียนมากขึ้น โดยทุ่มทุนกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทุ่มทุนครั้งใหญ่นับจากแบรนด์เปิดตัวมา เพื่อขยายกำลังการผลิตเตรียมพร้อมรับความต้องการของตลาดที่มากขึ้นในอนาคต

โดยตอนนี้ ผลิตภัณฑ์สินค้าในเครือจะมี ดังนี้
- ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน
- ยาบำรุงเลือด เม็ดสีแดง เฮโมวิต
- วิตามินรวมน้ำเชื่อมสำหรับเด็ก เฮโมวิต คิดส์
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วัน บาย เฮโมวิต

นอกจากนี้ ในตลาดยารักษาอาการทางช่องท้องที่มีมูลค่าราว 2,000-3,000 ล้านบาท แบรนด์บอส ฟาร์มาแคร์ อยู่ในสามอันดับแรกของตลาด และเมื่อเจาะลงไปในกลุ่มยาธาตุน้ำขาว จะพบว่า ‘กระต่ายบิน’ กินสัดส่วนมากถึง 99% ในปี 2563

สัดส่วนตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินแทบจะไม่มีคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันเลย แม้จะไม่สามารถขายในร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่นได้ เพราะไม่ได้เป็น ‘ยาสามัญประจำบ้าน’ จึงสามารถขายในร้านขายยาได้เท่านั้น หรือในเซเว่น อีเลฟเว่นที่มีแผนกขายยาโดยมีเภสัชกรดูแลโดยเฉพาะ

💰 รายได้ของ บริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ จำกัด

ปี 2563 รายได้รวม 1,061.61 ล้านบาท กำไร 519.6 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้รวม 1,122 ล้านบาท กำไร 619.1 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้รวม 1,178.8 ล้านบาท กำไร 624.1 ล้านบาท

ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เห็นได้ชัดว่าผลประกอบการของ บอส ฟาร์มาแคร์นั้นแข็งแกร่ง ผลกำไรเรียกได้ว่าเกิน 50% ในทุกปี แต่การเดินทางของยาธาตุน้ำขาวกระต่ายบินยังไม่จบ และยังอีกยาวไกลทีเดียว การเดินหน้าลุยตลาดอาเซียนในอนาคตจะทำให้ยาธาตุน้ำขาวเป็นที่รู้จักไปอีกในหลายพื้นที่ ทั้งยังจะเติบโตมากขึ้นไปอีกในอนาคต ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจด้วยความเอาใจใส่ ของทายาทเจียมจรรยาทุกรุ่น ในการส่งมอบคุณภาพ และความจริงใจสู่มือลูกค้าทุกคน ตลอด 79 ปี

เขียน: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช