จบไปแล้วครับกับศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์

ถ้าใครติดตามเกมก็คงเห็นตรงกันว่าเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดและเข้มข้น หลังจากที่ครึ่งแรกผ่านไปคิดว่าจะเป็นงานง่าย ๆ สำหรับอาร์เจนตินา แต่ครึ่งหลังหนังคนละม้วนฝรั่งเศสกลับมาแล้วสู้จนต้องไปตัดสินกันในการต่อเวลาพิเศษและดวลจุดโทษ สุดท้ายอาร์เจนตินาก็ได้แชมป์ของปีนี้มาครองอย่างสมศักดิ์ศรี

ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) กัปตันของอาร์เจนตินาและชายผู้ถูกขนามนามว่า G.O.A.T (Greartest Of All Time) แห่งวงการฟุตบอลได้ขึ้นไปชูถ้วยรางวัลที่เขารอคอยมาแสนนาน ทำให้ประเทศอาร์เจนตินาได้แชมป์เป็นสมัยที่ 3 เป็นรองแค่บราซิล (5 สมัย) เยอรมัน (4 สมัย) และ อิตาลี (4 สมัย) เพียงเท่านั้น

มาดูสถิติของเขาสักนิดหนึ่ง

- เมสซี่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ในฐานะนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 7 ในปี 2021 โดยนำหน้าคู่แข่งอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ถึง 2 ครั้ง

- ฤดูกาล 2008–09 เขาพาบาร์เซโลนาคว้าแชมป์รายการใหญ่ 3 รายการในปีเดียวกัน และคว้ารางวัลบาลงดอร์สมัยแรกในวัย 22 ปีในปีนั้น ก่อนจะคว้ารางวัลนี้ได้อีกสามสมัยติดต่อกัน ทำสถิติผู้เล่นคนแรกที่คว้าบาลงดอร์สี่สมัยติดต่อกัน

- ในเดือนสิงหาคมปี 2021 เขาย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแมงจากสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา 2021 ที่ถือว่าเป็นทีมฟุตบอลอาชีพแห่งเดียวที่เขาเคยเล่นให้ตั้งแต่อายุ 17 ปี

- หลังจากที่อาร์เจนตินารอคอยมา 36 ปีสำหรับแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่สาม ในที่สุดปีนี้เมสซี่ก็สามารถนำทีมคว้าชัยชนะการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดมาให้กับประเทศของเขาได้สำเร็จ

และถึงแม้ว่าปีนี้จากการคาดการณ์ของนิตยสาร Forbes จะบอกว่าเขาน่าจะได้ค่าจ้างที่น้อยลงตอนที่เซ็นสัญญาย้ายทีมมาอยู่กับปารีส แซงต์-แชร์กแมงถึง 22 ล้านเหรียญ แต่ด้วยรายได้นอกสนามอย่างโฆษณาและค่าตัวต่าง ๆ จนทำให้ขึ้นแท่นมายืนเป็นอันดับหนึ่งของนักกีฬาที่มีรายได้มากที่สุดแห่งปี 2022 อีกด้วย ถือว่าปีนี้เป็นปีที่ดีของเขาอีกปีหนึ่งเลย

โดย 10 นักกีฬาที่รายได้มากที่สุดในโลกของปี 2022 ที่จัดอันดับโดย Forbes คือ

1. ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)

รายได้ : 130 ล้านเหรียญ (ในสนาม : 75 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 55 ล้านเหรียญ)

ประเภท : ฟุตบอล

2. เลอบรอน เจมส์ (LeBron James)

รายได้ : 121.2 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 41.2 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 80 ล้านเหรียญ)

ประเภท : บาสเกตบอล

3. คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)

รายได้ : 115 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 60 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 55 ล้านเหรียญ)

ประเภท : ฟุตบอล

4. เนย์มาร์ (Neymar)

รายได้ : 95 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 70 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 25 ล้านเหรียญ)

ประเภท : ฟุตบอล

5. สตีเฟน เคอร์รี (Stephen Curry)

รายได้ : 92.8 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 45.8 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 47 ล้านเหรียญ)

ประเภท : บาสเกตบอล

6. เควิน ดูแรนท์ (Kevin Durant)

รายได้ : 92.1 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 42.1 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 50 ล้านเหรียญ)

ประเภท : บาสเกตบอล

7. โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer)

รายได้ : 90.7 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 0.7 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 90 ล้านเหรียญ)

ประเภท : เทนนิส

8. ซาอุล อัลบาเรซ (Canelo Álvarez)

รายได้ : 90 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 85 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 5 ล้านเหรียญ)

ประเภท : ชกมวย

9. ทอม เบรดี้ (Tom Brady)

รายได้ : 83.9 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 85 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 5 ล้านเหรียญ)

ประเภท : อเมริกันฟุตบอล

10. ยานนิส อันเททูคุมโป (Giannis Antetokounmpo)

รายได้ : 80.9 ล้านเหรียญ​ (ในสนาม : 39.9 ล้านเหรียญ, นอกสนาม : 41 ล้านเหรียญ)

ประเภท : บาสเกตบอล

Forbes กล่าวว่า ‘ในสนาม’ รวมตั้งแต่เงินรางวัล ค่าจ้าง และโบนัส นับตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2021 - 1 มิถุนายน 2022 และ ‘นอกสนาม’ คือเงินที่ได้จากสปอนเซอร์ ค่าโชว์ตัว ของที่ระลึกและลิขสิทธิ์ต่าง ๆ รวมถึงผลตอบแทนที่เป็นเงินสดจากธุรกิจที่นักกีฬาดำเนินการอยู่และการขายหุ้นต่าง ๆ แต่ไม่รวมรายได้จากการลงทุนอย่างดอกเบี้ยหรือเงินปันผล

อ้างอิง

Forbes

Cambridge

Forbes