เมื่อเป็นหนี้ เราก็ต้องใช้หนี้ แต่เมื่อรายได้น้อยแถมโตช้าตามค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่ทัน เราจะบริหารจัดการหนี้อย่างไรดี หลักง่ายๆ คือ เราต้องรู้ขนาดความรุนแรงของปัญหาก่อน ด้วยการทำบัญชีหนี้สิน แบ่งแยกประเภทหนี้ จำนวนหนี้ แยกประเภทหนี้ เป็นกลุ่มแบงค์ นอนแบงค์ หนี้นอกระบบ จดรายละเอียดให้ครบ เรียงลำดับหนี้จากน้อยไปหามาก เอาไว้ดูเวลาจะชำระหนีสิ้น เลือกจ่ายตัวที่ดอกเบี้ยแพงสุดก่อน และเลือกจ่ายตัวที่จำนวนหนื้น้อยๆก่อน เพื่อจะได้ตัดปัญหาทีละเปลาะ

➡️ อยากหลุดพ้นจากหนี้ มีวิธีบริหารจัดการยังไง?

✅ ใช้ตัวแก้หนี้

ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของเราเองตลอดเดือน เพื่อดูว่าทั้งเดือน

• เช็กค่าใช้จ่าย

มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายไหนไม่จำเป็น เราก็ต้องละ หรือ อย่างน้อยก็ต้องลด จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า 12.8 % ของกลุ่มตัวอย่างไม่มีปัญหาการเงิน เพียงเพราะซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น แต่ถ้ามีมากเกินจำเป็น ก็ต้องละหรือลดเช่นกัน อย่างเช่น ค่าบริการมือถือ เรามีมือถือเยอะเกินไปหรือไม่ ซื้อแพคเก็จที่เกินจำเป็นหรือไม่ ฯลฯ ตัดค่าใช้จ่ายจนเหลือเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว

เหมือนอย่างที่ Warren Buffett กล่าวเตือนไว้ว่า “อย่าใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะในที่สุด คุณอาจจะต้องขายสิ่งที่จำเป็นเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย” เราก็ต้องมาดูเรื่องรายได้ต่อ

• เช็กรายได้

รายได้พอใช้จ่ายมั๊ย ถ้าไม่พอมีทางไหนเพิ่มรายได้ได้บ้าง พัฒนาความรู้ความสามารถ โดยศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันหาได้ง่ายมากทางอินเตอร์เนต และไม่เสียค่าใช้จ่าย

• สร้างเงินเก็บ

ทำทุกอย่างแล้วมีเหลือเก็บออมหรือไม่ ถ้ามีเงินออมเหลือ เอาไปโปะหนี้ที่ดอกเบี้ยแพงที่สุด

✅ ใช้ทรัพย์สินแก้หนี้

• ทำบัญชีทรัพย์สินว่ามีอะไรบ้าง อะไรพอจะขายได้ ถ้าขายน่าจะขายได้เท่าไหร่ (เอาราคาตลาดที่คิดว่าขายได้จริงๆนะ อย่าเอาราคาที่เราอยากขาย อย่างเช่น อยากขายรถที่เพิ่งซื้อมา 1 ล้านบาท ขายจริงๆอาจได้แค่ 7 แสน ก็ต้องใช้ราคา 7 แสน)

✅ ใช้หนี้แก้หนี้

• รีไฟแนนซ์

รีไฟแนนซ์หนี้ไปหนี้ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า อย่างเช่น จากหนี้นอกระบบมาเป็นสินเชื่อบุคคลในระบบ หรือ รีไฟแนนซ์refinance หนี้บ้านไปสถาบันการเงินอื่น หรือติดต่อสถาบันการเงินเดิมเพื่อขอทำ retention เพื่อประหยัดดอกเบี้ย

• ปรับโครงสร้างหนี้

เป็นวิธีที่ภาระหนี้มีมากจนเกินความสามารถ วิธีแนะนำคือ พูดคุยกับเจ้าหนี้โดยตรง เพื่อขอปรับลดดอกเบี้ย หรือปรับเงินผ่อนต่องวด แม้วิธีนี้จะลดภาระการจ่ายหนี้ในแต่ละงวด แต่วิธีนี้มักจะทำให้ภาระหนี้เรายาวนานขึ้น ภาระดอกเบี้ยที่จ่ายตลอดอายุหนี้จะเพิ่มขึ้น

✅ หยุดก่อหนี้

หากเราไม่หยุดก่อหนี้เพิ่ม โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล ฯลฯ อย่างที่พบหลายคนใช้วิธีกดเงินสดจากบัตรเครดิตใบใหม่มาใช้หนี้บัตรเครดิตใบเก่า ทำให้ปัญหาหนี้สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้พยายามแก้หนี้อย่างไรก็ไม่มีทางแก้หนี้ได้สำเร็จ

📌 สำหรับลูกหนี้มีปัญหาหนี้เสีย

ลองติดต่อ คลินิกแก้หนี้ (คลินิกแก้หนี้ คือ หน่วยงานกลางที่ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ประชาชนมีโอกาสปลดหนี้สินล้นพ้นตัวได้ นอกจากนี้ยังให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนให้มี การวางแผน และบริหารการเงินที่ดี เพื่อจะไม่ตกอยู่ในวังวนของการมีหนี้สินล้นพ้นตัว) เพื่อขอคำปรึกษา และบางครั้งอาจมีโครงการแก้หนี้ที่ช่วยเราปลดหนี้ได้ ติดต่อได้ที่ Call center 0-2610-2266 หรือ www.debtclinicbysam.com