ราคาของ “การเป็นโสดอยู่คนเดียว” นั้นคุ้มค่าหรือไม่?

พอพูดถึงหน้าหนาวแล้วสิ่งหนึ่งที่มาควบคู่กันก็คือ “บรรยากาศแห่งการแต่งงาน” เท่าที่นับดูแล้วปลายปีนี้ผมจะมีงานแต่งที่ต้องไปร่วมประมาณ 4-5 งานด้วยกัน ก็ยินดีกับชีวิตคู่ของทุกคนที่กำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยนะครับ

ครั้งหนึ่งผมเคยคุยกับหนึ่งในว่าที่เจ้าบ่าวว่าทำไมถึงตัดสินใจแต่งงาน นอกจากเรื่องความรักที่มีล้นเปี่ยมแล้ว เขาตอบคำถามที่น่าสนใจว่า “เป็นการตัดสินใจในเชิงเศรษฐกิจ”เหมือนกัน น่าสนใจว่าแต่เดิมในอดีตการมีคู่ครองนั้นเป็นการเลือกแต่งเพื่อการพึ่งพาทางเศรษฐกิจและความเหมาะสม เช่น ในอดีตผู้ชายไทยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงเพื่อเป็นกำลังหลักหรือแรงงานของบ้าน แต่เมื่อสังคมมันเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อคนออกไปทำงานนอกบ้าน ยุคสร้างชาติก็กลายเป็นว่ามีการแบ่งหน้าที่ว่าผู้ชายป็นคนทำงานนอกบ้าน และผู้หญิงดูแลครอบครัว

แต่พอถึงยุคสมัยใหม่ที่ผู้หญิงไปทำงานนอกบ้าน มีการพึ่งพาตัวเองในเชิงเศรษฐกิจได้มากขึ้นดังนั้นจึงมีทางเลือกมากขึ้นว่าไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อพึ่งพาผู้ชายต่อไป อาจจะเลือกครองตนเป็นโสดหรือแต่งงานช้าลงก็ได้ แต่ภาวะทางเศรษฐกิจที่ชลอตัวในระยะเวลา 10 ปีกลับทำให้คนเริ่มคิดทบทวนในเรื่องการพึ่งพาทางเศรษฐกิจกันมากขึ้น เช่น การเช่าที่อยู่อาศัยร่วมกันตั้งแต่ตอนยังไม่แต่งงาน แทนที่จะต้องเช่าหอพักสองที่แยกจากกัน

ราคาของความเป็นคนโสดนั้นมีราคาที่ต้องจ่ายสูงกว่าคนมีคู่จริงไหม? ก็มีทั้งจริงและไม่จริง ที่เป็นส่วนจริงก็คือคงเหมือน เวลาเราซื้อสินค้าแบบปลีกและสินค้าแบบเหมาโหลถูกกว่า มันคือการประหยัดแบบที่ว่าถ้ามีคนช่วยใช้ก็จะทำให้เราซื้อของทีปริมาณมากๆเพื่อได้ส่วนลดราคาได้ แทนที่จะซื้อของทีละชิ้นที่มีราคาเฉลี่ยต่อชิ้นที่สูงกว่า แต่ถ้าเราไม่ได้เดือดร้อนในเรื่องเงินมากนักก็ไม่ได้มีผลเสียหาย

แต่เรื่องที่ไม่จริงก็มีเช่นกัน เช่นในกรณีที่เรามองหาคนที่จะมาร่วมชีวิต แต่กลับกลายเป็นเจอคู่ชีวิตที่ไม่ดีและชักพากันไปในทางเสื่อมแบบหลายๆคู่ที่เป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งคนดังและคนธรรมดา แทนที่จะทำให้เราประหยัดหรือใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น กลับกลายเป็นว่าจะต้องแบกรับความผิดพลาดของอีกฝ่ายซึ่งหลายครั้งก็บานปลายเป็นเหตุทำร้ายร่างกาย หรือคดีความที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

ดังนั้นเรื่องแบบนี้นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ในเชิงเหตุผลทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องมองปัจจัยประกอบหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องเป้าหมายชีวิต อนาคตร่วมกัน และที่สำคัญก็คือทัศนคติ ขอให้ทุกคนที่กำลังจะเริ่มชีวิตคู่มีความสุขมากๆนะครับ

คอลัมน์มีสลึงพึงบรรจบ โดย Mr.Priceless