มีเพื่อนหลายคน “ครองตัวเป็นโสด” ด้วยเหตุผลง่ายว่าๆ “เป็นโสดรวยง่ายกว่า!!”

พวกเขาบอกตรงกันว่า ถ้ามีแฟนแค่ออกไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเที่ยว เงินที่จ่ายก็ต้องคูณสอง ลองคิดตามดูนะ เฉพาะค่าข้าวของ 2 คน ก็หลักร้อยเข้าไปแล้ว ถ้าไปกินตามห้าง ก็ปาไปหลักพัน ยังไม่นับรวมวันสำคัญ หรือ เทศกาลต่างๆ ทั้ง วันวาเลนไทน์ วันเกิด พูดง่ายๆ มีแต่เรื่องต้องใช้เงิน

ถ้าเอาค่าใช้จ่ายที่ไร้สาระพวกนี้ แปลงไปเป็นเงินเก็บ หรือ นำไปใช้ลงทุน ก็อาจได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำกลับคืนมาด้วย

การเลือกเงิน มากกว่า ความรัก นักจิตวิทยา มองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก ขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายของชีวิตของเขาคืออะไร คนที่เลือกเงิน อาจมีเป้าหมายอยากมีเงินเก็บมีเงินใช้แบบสบายๆ ไม่ต้องกระเบียดกระเสียนให้วุ่นวาย แถมการครองตัวเป็นโสด อาจจะสานฝันการเป็นคนรวยได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกับคนที่อยู่ข้างๆ ก็ได้

เคยได้ยินหลายคนบอก ถ้ามีเงิน ก็มีความรักได้เอง แค่นำเงินที่มีไปปรนเปรอ เอาอกเอาใจคนที่ถูกใจ กระทั่งเขาใจอ่อนยอมคบหาด้วย ก็มีความเป็นไปได้

คราวนี้เริ่มอยากรู้แล้วล่ะว่า สาวโสด กับ หนุ่มโสด ใครรวยกว่ากัน??

มีงานวิจัยจาก Pew Research Center ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญเรื่องการทำวิจัยเกี่ยวทัศนคติและเทรนด์ระดับนานาชาติ ระบุว่า ในสหรัฐอเมริกา บรรดาสาวโสดที่ไม่ได้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มักจะมีฐานะทางการเงินที่ดีกว่าบรรดาหนุ่มโสด

และในทางกลับกัน ผู้หญิงที่แต่งงานมีลูกแล้ว พวกเธอจะมีฐานะทางการเงินที่แย่ลงหลายเท่าตัว เพราะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับครอบครัวและลูกๆ

ข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับ ผลการศึกษาจาก Federal Reserve Bank of St. Louis ของธนาคากลางแห่งชาติสหรัฐ ที่ชี้ว่า สาวโสดที่ไม่มีลูก มีรายได้เฉลี่ยราว 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี หรือ 2.2 ล้านบาท/ปี ซึ่งสูงกว่า รายได้ของผู้ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เกือบ 10 เท่าเลยทีเดียว เพราะคนกลุ่มหลังนี้ มีรายได้เฉลี่ยเพียง 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี หรือราว 240,000 บาท/ปี เท่านั้น

ส่วนหนุ่มโสด มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 57,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1.98 ล้านบาท แถมรายได้ของคนกลุ่มนี้ ยังน้อยกว่า พวกที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งมีรายได้เฉลี่ย 59,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2 ล้านบาท/ต่อปี

แล้วเหตุผลคืออะไร ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ??

มีข้อมูลจาก LearnVest บริษัทวางแผนทางการเงินชื่อดังของสหรัฐฯ ระบุว่า หนุ่มโสด มักทำงานนอกบ้านน้อยกว่าชายที่แต่งงานแล้วถึง 400 ชั่วโมง เหตุผลเป็นเพราะพวกเขาไม่มีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับครอบครัว และการเลี้ยงลูก จึงไม่ซีเรียสกับการสร้างตัว หาเลี้ยงชีพ เวลาว่างของพวกเขาจึงหมดไปกับการทำกิจกรรมที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว ทำงานอดิเรก หรือ สังสรรค์ แฮงเอาท์ได้ตามใจชอบ

แต่ถ้าเป็นสาวโสด ผลสำรวจ บอกว่า พวกเธอมักจะบ้าพลัง จึงโหมทำงานมากกว่าผู้หญิงที่มีครอบครัวแล้ว เพื่อหาเงิน สร้างเนื้อสร้างตัว รองรับอนาคตที่อาจต้องอยู่เพียงลำพัง โดยเฉพาะสาวโสดวัยกลางคน มักทำงานมากกว่าคนวัยเดียวกันที่แต่งงานแล้วถึง 130 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ไม่ได้บอกว่า เงิน กับ ความรัก ไปด้วยกันไม่ได้ เพราะมีหลายคนที่สามารถจัดการความรักให้เติบโตไปกับการสร้างความมั่นคงทางการเงินได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณเลือกที่จะครองตัวเป็นคนโสดแล้วล่ะก็ อย่ามองข้าม การวางแผนทางการเงิน เพื่อให้เป้าหมาย โสดเกษียณ และมีบั่นปลายชีวิตที่อยู่ดีมีสุข มีกินมีใช้ เป็นจริงได้ในที่สุด