คำถามส่วนใหญ่ที่พรี่หนอมเจอบ่อยๆ ว่าอยากลดหย่อนภาษีให้เยอะๆ ควรซื้อ LTF หรือ RMF ดี? ถ้าถามความคิดเห็นของผม ผมมองว่าก่อนอื่นเราต้องตอบคำถามต่อไปนี้ให้ชัดเจนก่อนครับ

1. เราเสียภาษีไหม?

ถ้าตอนนี้ยังไม่เสียภาษี แม้ว่าจะสามารถซื้อ LTF และ RMF ได้ แต่เราจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติม รวมถึงต้องถือครองตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดด้วย แต่ถ้าหากเมื่อเราคำนวณรายได้และต้องเสียภาษีอยู่แล้ว การซื้อ LTF และ RMF สามารถนำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้ครับ

ดังนั้น ถ้าคำตอบ คือ เราต้องเสียภาษี การซื้อ LTF และ RMF ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีในการลดหย่อนภาษี และยังได้โอกาสรับผลตอบแทนกลับมาด้วยครับ

2. เรามีเงินไหม?

การซื้อ LTF และ RMF นั้นมันมีเรื่องของเงินมาเกี่ยวข้อง ถ้าหากเราไม่มีกระแสเงินสดที่ดี การซื้อ LTF และ RMF ย่อมก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ แต่คำถามตรงนี้ อยากให้ลองดูว่าเราวางแผนจัดการเรื่องเงินของตัวเองไว้อย่างไร ซึ่งการบริหารที่ว่านี้ ไม่ใช่ต้องจัดการเก็บเงินก้อนใหญ่ไว้นะครับ เพียงแค่เราบริหารจัดการเงินในแต่ละเดือนให้มีเงินสดเหลือ และทยอยนำส่วนนี้มาลงทุนได้เรือยๆ ก็เหมาะสมแล้ว มีมากลงทุนมาก มีน้อยลงทุนน้อย เพราะแค่ 500 บาทก็สามารถเริ่มลงทุนใน LTF หรือ RMF ได้แล้วครับ

3. เราต้องการอะไรในชีวิต?

นอกจากสิทธิในการลดหย่อนภาษีแล้ว เรามีเป้าหมายอะไรในการซื้อ LTF หรือ RMF ต้องการลงทุนระยะยาว ลงทุนเพื่อเกษียณ แล้วตอบต่อไปว่า เรามีเงินลงทุนเดือนละเท่าไร ผลตอบแทนสูงแค่ไหน รับความเสี่ยงจากการลงทุนไหวหรือเปล่า? ลงทุนแล้วต้องการผลตอบแทนกลับมาในรูปแบบเงินปันผลด้วยไหม? ซึ่งตรงนี้ยิ่งตอบคำถามได้ไว เข้าใจตัวเองเร็ว ก็ยิ่งเริ่มต้นได้เร็วนะครับ ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุเยอะหรือมั่นคงก่อน เพราะเราค่อยๆทยอยสร้างไปได้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆครับ

การลดหย่อนภาษีนั้นไม่ได้มีข้อจำกัดทางอายุ แต่มีข้อจำกัดด้านการเงินมากกว่า สำหรับผมมองว่า อายุมากหรือน้อยไม่ใช่ปัญหาในการลงทุนทั้ง LTF และ RMF ครับ แต่ข้อดีของการเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่อายุน้อยๆ นั้น มันคือ

การมีโอกาสเติบโตของเงินมากกว่าทั้งในเรื่องของ ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นแบบทบต้นจากเวลาระยะยาวในการลงทุน กับจำนวนเงินที่น้อยลงหากเริ่มต้นลงทุนตอนที่อายุยังน้อย และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ใครหลายคนมักจะแนะนำให้เริ่มต้นออมเงินหรือลงทุนตั้งแต่แรกๆ ครับ

จริงๆหลักการคิดในการลงทุน LTF หรือ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีนั้นมีเท่านี้เองครับ แต่สิ่งที่อีกหลายๆคนลืมคิดกันต่อนอกเหนือจากเรื่องของภาษีคือ กองทุน LTF หรือ RMF ที่เราจะใช้ลงทุนนั้น มันควรจะเป็นกองทุนแบบไหน ยังไง และเหมาะกับเราแค่ไหน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้การลงทุนของเราได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น และสบายใจในการลงทุนถือกันไปยาวๆครับผม

มาถึงตรงนี้ พรี่หนอมอยากพาทุกคนมารู้จักสองกองทุนดาวเด่นทั้ง LTF และ RMF ที่น่าติดตามจาก บลจ. กสิกรไทย หรือ KAsset ยิ่งถ้าใครสังเกตข่าวการลงทุนช่วงที่ผ่านมา คงจะเห็นว่าทาง KAsset เองก็มีการพัฒนาคุณภาพเพื่อให้บริการนักลงทุนดีขึ้นมาเรื่อยๆครับ รวมทั้งตัวบลจ.เองก็เพิ่งได้รับรางวัลบลจ.ยอดเยี่ยมจากเวที SET Awards 2018 มาหมาดๆอีกด้วยครับ

นั่นคือ KDLTF กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล และ KEQRMF กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนและรายละเอียดต่างๆ ดังนี้ครับ

ดูข้อมูลของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่หนังสือชี้ชวน

www.kasikornasset.com/FundDocument/Fund_Fact_Sheet/KDLTF.pdf

นอกจากนั้นถ้าเรามาดูที่ผลตอบแทนย้อนหลังแบบปักหมุดทั้งสองกองทุนเปรียบเทียบกัน จะเห็นว่าทั้งสองกองทุนสามารถทำผลตอบแทนและมีความผันผวนใกล้เคียงกับตัวชี้วัดครับ

ที่มา: https://www.kasikornasset.com/FundDocument/Fund_Performance/KDLTF.pdf

ที่มา: https://www.kasikornasset.com/FundDocument/Fund_Performance/KEQRMF.pdf

ดังนั้น ถ้าหากใครที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี กองทุน LTF และ RMF ทั้งสองกองนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ชอบลงทุนในหุ้นใหญ่ ที่มีความมั่นคงสูง มีการกระจายไปหลายหมวดอุตสาหกรรม และมีมุมมอง Theme ลงทุนในแต่ละปีที่ทางผู้จัดการกองทุนเห็นว่าเหมาะสมที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยครับ (อ้อ.. สำหรับคนที่ชอบลงทุน LTF ที่ได้รับเงินปันผลด้วยครับผม เพราะกอง KDLTF นั้น เรียกได้ว่ามีการจ่ายเงินจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 9.83 บาท รวมทั้งหมด 22 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2547 เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เงินปันผลอย่างสม่ำเสมอระหว่างทางการลงทุนไปด้วยครับ)

สำหรับคนที่สนใจลงทุน LTF และ RMF ในช่วงนี้ ทางบลจ.กสิกรไทยเองก็มีโปรโมชั่นดีๆมาฝากกันด้วยครับ พิเศษ! รับ Starbucks e-Coupon สูงสุด 200 บาท เมื่อซื้อกลุ่มกองทุน LTF และ/หรือ RMF ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds เป็นครั้งแรก โดยเมื่อ

- ลงทุนสะสมสุทธิ 50,000-99,999 บาท รับ Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท

- ลงทุนสะสมสุทธิ 100,000 บาทขึ้นไป รับ Starbucks e-Coupon มูลค่า 200 บาท

ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-28 ธ.ค. 61 (เงื่อนไขเพิ่มเติมเป็นไปตามที่บลจ.กสิกรไทยกำหนด) 

กองทุนทั้งสองกองทุนนี้ซื้อที่ไหนก็ได้ (ที่มีขาย) แต่ถ้าจะซื้อง่ายต้องซื้อผ่าน K PLUS, K-My Funds ที่ล่าสุดเห็นว่ามี ฟีเจอร์สรุปพอร์ต LTF RMF เป็นรายปีให้ดู สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีก หรือจะไปซื้อที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาก็ได้ เริ่มต้นเพียง 500 บาท

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2SvCdb3

คำเตือน

  • ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน 
  • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • เงินปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% หรือสามารถเลือกให้ไม่หัก ณ ที่จ่ายก็ได้ แต่จะต้องนำเงินปันผลไปรวมเป็นรายได้ เพื่อคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี

บทความนี้เป็น Advertorial