ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนที่มีทางเลือกแบบนั้น

บางคนไม่ใช่หนี้ก้อนเดียวด้วย มีเยอะแยะกองเป็นภูเขาที่แม้จะรู้ว่ามันคือปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แค่เห็นก็ท้อตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ แต่ใจเย็น ๆ นะครับ อยากให้ลองอ่านบทความนี้ให้จบเผื่อมันจะช่วยเป็นแนวทางเพื่อให้คุณหลุดออกจากปัญหาตรงนี้ไปได้

ใน “Switch กดปุ่มเปลี่ยนแปลง” หนังสือแนวจิตวิทยาการพัฒนาตัวเองที่รวบรวมเครื่องมือเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านแนวคิดที่ร่วมสมัยและงานวิจัยด้านสมองและจิตวิทยา เปรียบเหมือน ‘สวิตช์’ ที่อยู่ในสมอง ถ้าเราเปิดถูกที่ มันจะช่วยเปลี่ยนแปลงนิสัยที่เราต้องการได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะใหญ่หรือยากแค่ไหนก็ตาม

(หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่แนะนำนะครับดีมาก ๆ เลยครับ)

ผู้เขียนใช้การเปรียบเทียบว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอะไรสักอย่าง ก็เหมือนกับการเดินทางของช้างและควาญช้าง ซึ่งช้างเป็นสัตว์ที่ทรงพลังและดื้อรั้น เป็นตัวแทนของอารมณ์ที่พยายามมองหาผลตอบแทนที่รวดเร็วแบบง่าย ๆ มากกว่าผลประโยชน์ระยะยาว ในทางกลับกันควาญช้างเป็นตัวแทนของฝ่ายที่มีเหตุผลซึ่งรู้ว่าควรทำอะไร สามารถบังคับทิศทางของช้างได้ในระดับหนึ่ง และเส้นทางที่ไปก็คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั่นเอง

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ได้ครับว่าเราอยากจะลุกมาวิ่งตอนตีห้า ควาญช้างในตัวเรารู้แล้วว่าการลุกขึ้นมาวิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว แต่ตอนที่นาฬิกาปลุกดังเราทำยังไงครับ? ส่วนใหญ่ช้างในตัวเราก็บอกว่าขอนอนต่ออีกหน่อย สุดท้ายรู้ตัวอีกทีคือแปดโมงเช้าไปแล้ว

การเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งดูเป็นเรื่องที่ท้าทายและน่ากลัว ยกตัวอย่างคนที่เป็นหนี้ก็ได้ครับ บางคนเป็นหนี้หลายก้อนไม่รู้มาจากไหนเยอะแยะ ช้างในตัวเรารู้สึกเหมือนว่าไม่มีทางเลยที่จะจ่ายให้หมดได้ จะเป็นไปได้ยังไงกัน การเปลี่ยนแปลงยังไง จะเริ่มตรงไหน เหมือนภูเขาที่อยู่ตรงหน้าช่างสูงใหญ่เกินไปที่จะเดินขึ้นไปได้

เมื่อปัญหามันดูใหญ่เกินไป ช้างในตัวเราก็นิ่งไม่ขยับไปไหน…เพราะแค่คิดยังไม่ทันได้เริ่มก็เหนื่อยแล้ว

แต่ควาญช้างเป็นคนที่มีเหตุผล รู้ว่าหนี้ยังไงก็ต้องจ่าย แต่ควาญช้างช่วยดันช่วยผลักให้ช้างขยับไปข้างหน้าได้ยังไง?

เราต้องย่อขนาดของการเปลี่ยนแปลงให้เล็กลงครับ แสดงให้ช้างเห็นว่าทางที่จะเดินไปข้างหน้าเป็นเนินเตี้ย ๆ แค่นั้นเอง แล้วก็ค่อย ๆ ดันช้างให้เริ่มเดิน แรงต่อต้านก็จะลดลง

มีงานวิจัยหนึ่งที่แสดงให้เห็นพลังของการเริ่มแบบเล็ก ๆ นี้ได้เป็นอย่างดี นักวิจัยทดลองโดยการให้ร้านล้างรถมอบบัตรสะสมแต้มสองแบบกับลูกค้า โดยแบบแรกคือสะสม 10 แต้มได้ล้างรถฟรี (แบบปกติ) คนที่จะเก็บสะสมแต้มได้สำเร็จมีจำนวนเพียง 19% เท่านั้น ส่วนในแบบที่สองต้องสะสม 12 แต้มได้ล้างรถฟรี แต่ที่น่าสนใจคือ บัตรนี้จะแถม 2 แต้มให้ก่อนเลยตั้งแต่ได้รับบัตร กลายเป็นว่าคนที่เก็บสะสมแต้มได้สำเร็จมีเพิ่มมากขึ้นถึง 34% เลยทีเดียว เพิ่มมาเกือบเท่าตัว

ทั้งที่ทั้งสองแบบใช้ความพยายามเท่ากัน (ต้องเก็บ 10 แต้มเหมือนกัน) แต่กลุ่มที่สองกลับรู้สึกมีกำลังใจมากกว่าเพราะรู้สึกว่าตัวเองเส้นทางไปสู่เป้าหมายนั้นได้เริ่มไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้รู้สึกมีกำลังใจและช่วยให้รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงมันเริ่มขึ้นแล้วนะ

สำหรับคนที่มีหนี้เยอะ หลายก้อนกองเป็นภูเขาให้ตั้งสติก่อน แล้วลองทำแบบนี้ดูครับ

1. หาเวลาว่าง ๆ สมองโล่ง ๆ สักวันหนึ่ง (ถ้าเป็นครอบครัวก็เอาสามีและภรรยามานั่งด้วยกันจะดีมาก ๆ) แล้วก็เอาหนี้ทุกอย่างมากางบนโต๊ะเลยครับ เอาออกมาวางให้หมด ขั้นตอนแรกคือการ ‘ยอมรับ’ ก่อนเลยว่าเรากำลังมีปัญหาและต้องเริ่มแก้ไขอย่างจริงจังแล้ว (ควาญช้างทำงาน)

2. ที่ผ่านมาช้างไม่เดินเพราะมันช็อกกับกองหนี้อันยิ่งใหญ่อยู่ ให้ซอยหนี้ออกเป็นก้อน ๆ เรียงจากเล็กที่สุดไปหาใหญ่ที่สุด เป็นข้อ ๆ ไป หนี้บัตรเครดิต หนี้ กยศ. หนี้รถยนต์ ฯลฯ

3. ตอนนี้ให้โฟกัสไปที่หนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อนครับ เรียกว่าเป็นเนินเตี้ย ๆ ที่จะให้ช้างในตัวคุณเดินไปนั่นแหละ

4. ตรงนี้ต้องห้ามก่อหนี้เพิ่ม เพราะไม่งั้นมันจะไม่จบ

5. วางแผนเพื่อจะแก้หนี้ก้อนหนี้ให้หมดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนี้ก้อนอื่นๆ ก็ยังต้องจ่ายนะครับ เป็นขั้นต่ำไปก่อนไม่เป็นไร หรือจะขอพักชำระหนี้อะไรก็ว่าไป แต่หนี้ทุกก้อนต้องจ่าย แต่โหมเงินทุกบาทไปที่หนี้ก้อนที่เล็กที่สุดก่อน

6. เมื่อหนี้ก้อนเล็กหมด ก็นำเงินที่จ่ายหนี้ก้อนเล็กนี้ไปจ่ายหนี้ก้อนที่ใหญ่ขึ้นเป็นลำดับถัดมา แล้วทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าหนี้ทุกก้อนจะจ่ายจนหมดครับ

ที่จริงวิธีนี้มีชื่อเรียกว่า “Snowball Method” ที่ใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเคลียร์หนี้ก้อนเล็ก ๆ ก่อน (เหมือนเป็นการสะสมแต้มบนบัตรที่มีการเริ่มไปแล้ว) หลังจากนั้นคนที่ติดหนี้ก็จะรู้มีกำลังใจ ไม่ท้อตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

ชัยชนะเล็ก ๆ สร้างความหวังอันยิ่งใหญ่ การจ่ายหนี้ก้อนเล็ก ๆ ให้หมดแล้วขยับไปหนี้ก้อนใหญ่ขึ้นจะการสร้างโมเมนตัมทำให้เราก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ย่อท้อ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เริ่มต้นที่ก้าวเล็ก ๆ เสมอ เหมือนการล่อให้ช้างเดินขึ้นเนินเล็ก ๆ ไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะปีนขึ้นมาถึงยอดเขาโดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้