สวัสดีครับผม กลับมาพบกันอีกแล้วครับ ยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนไกล กับยอดมนุษย์กองทุน พร้อมกับบทความสรุปเรื่องราวดีๆ จากรายการกองทุนไหนดี SELECTED LTF RMF SEASON 3 ประจำปี 2018 ให้อ่านกันอีกแล้วครับ

ตอนนี้ก็เป็นตอนที่ 5 แล้วครับ และก็เป็นตอนสุดท้าย (อ้าว ไหนบอกจะไม่ไปไหนไกล) แต่ยังไงก็ตามในตอนนี้ ผมว่าเรามาทำความรู้จักกับกองทุนเด็ดอีกตัวหนึ่งที่ชูจุดขายว่าเป็น LTF ที่สามารถลงทุนได้หลากหลายตามสถานการณ์ คัดหุ้นดาวเด่นและดี แถมยังมีจ่ายปันผลอีกด้วยครับ

และนั่นคือ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาว ไทยออลสตาร์ปันผลจากทาง บลจ.กรุงศรี ครับผม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ KFLTFSTARD นั่นเองครับ

เริ่มต้นกันเลยดีกว่าครับ สำหรับตัวแรก คือ ความเสี่ยงของกองทุนอยู่ในระดับ 6 (เหมือนเช่นเคย) เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของ LTF ที่ทำให้กองทุนต้องลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65% ของสินทรัพย์สุทธิทั้งหมดของกองทุน นั่นแปลว่ากลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงสูงเหมือนอย่างเช่นเคยครับ แต่ด้วยระยะการเวลาลงทุนที่ยาวนานตามกฎหมายกำหนด (7 ปีปฏิทิน) ก็ทำให้ความเสี่ยงตรงนี้เป็นเรื่องปกติที่คนลงทุนระยะยาวอย่างเราๆต้องทำความเข้าใจและยอมรับให้ได้ครับผม

ทีนี้ถ้าเปรียบเทียบเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างละเอียดแล้วล่ะก็ เราจะเห็นว่า กองทุนนี้ในระยะสั้นๆ ยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ เนื่องจากเราต่างก็ทราบกันดีว่าการลงทุนใน LTF ต้องใช้เวลาในการลงทุนนานเสียหน่อยตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดครับ

แต่อย่างไรก็ดีจะเห็นค่าของความผันผวนประเภทเดียวกันแล้ว ค่อนข้างถือว่ากองทุน KFLTFSTARD นี่ก็เก่งพอตัวเลยนะครับ สามารถลดความผันผวนจากเรื่องที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆกันครับ

นอกจากนั้นผมจะเปรียบเทียบกับในส่วนของกองทุน KFTSTAR-D ที่เป็นกองทุนหลัก (ไม่ใช่ LTF) แต่มีนโยบายการลงทุนที่เหมือนกันให้ดูอีกตัวหนึ่งด้วยครับ ซึ่งพบว่าผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่น้อยหน้าตลาดครับ

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความผัวผวนที่เกิดขึ้นก็ต้องบอกว่ากองทุนนี้ถือว่ามีความผันผวนค่อนข้างมากครับ ซึ่งก็ถือเป็นความปกติของกองทุนประเภทนี้ของทางกรุงศรีครับ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบที่ต้องการเสมอ นั่นย่อมไม่แปลกที่ผันผวนค่อนข้างมากครับ

รายชื่อหุ้น 5 อันดับแรก และจำนวนขั้นต่ำในการลงทุน

สำหรับหุ้นที่กองทุนถือในตอนนี้จะเป็นหุ้นใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตต่อไปในอนาคตครับ ซึ่งถ้ามองในอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มนี้บางตัวมีการได้รับผลกระทบทางด้านราคามาค่อนข้างมาก (ผ่านวิกฤตมาเยอะ) ซึ่งอาจจะไม่มีราคาที่ต่ำกว่านี้แล้ว แต่กลับมีโอกาสที่จะเดินทางไปหามูลค่าที่แท้จริงในอนาคตเช่นกันครับ

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในหุ้นของกลุ่มนี้ จะเป็นการลงทุนหลากหลายสไตล์แบบไม่มีข้อจำกัด เนื่องจากลงทุนได้ทั้งหุ้นเล็ก หุ้นกลาง หุ้นใหญ่ หุ้นเน้นเติบโต และหุ้นปันผล ฯลฯ ซึ่งสไตล์การลงทุนของทีมงานผู้จัดการกองทุนที่นี่ก็เป็นเอกลักษณ์เดิม คือ

1. เน้นการคัดเลือกหุ้นรายหลักทรัพย์ โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเป็นหลัก (Bottom Up) เพื่อให้ได้เจอหุ้นที่ดีและมีโอกาสเติบโตจากพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ

2. มีการเข้าไปเยี่ยมชมกิจการ เน้นการคุยกับผู้บริหารของบริษัทเหล่านั้น เพื่อดูวิสัยทัศน์ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ซึ่งหุ้นที่คัดมาลงทุนนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่หุ้นราคาไม่แพง แต่ว่ามีการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นในตลาดหุ้นไทยครับ

ค่าธรรมเนียมและจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ

สำหรับค่าธรรมเนียมของกองทุนนี้ อยู่ที่ 2.326% ครับ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของกองทุน LTF ทั่วไป เมื่อเทียบกับการที่ผู้จัดการกองทุนที่ต้องมาคัดสรรหุ้นให้เราก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ต้องแบ่งปันกันไปนั่นแหละครับ ท่องเอาไว้ครับว่าจ่ายไปเพื่อให้ได้หุ้นที่ดี ฮ่าๆ ส่วนจำนวนซื้อขั้นต่ำนั้น จะสามารถซื้อได้ในจำนวนครั้งละ 2,000 บาทครับ 

สรุปอีกที กองทุนนี้เหมาะกับใคร

ขอสรุปอีกทีสำหรับกองทุน KFLTFSTAR-D นะครับว่า กองทุนหุ้นกลุ่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในระดับสูงครับ เพราะเป็นการลงทุนใน LTF ที่มีระยะเวลาค่อนข้างนาน และถ้าหากชอบการเลือกหุ้นแบบไม่มีข้อจำกัด เลือกลงทุนได้หลายประเภท หลายขนาด เพื่อสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด อีกทั้งต้องการลดหย่อนภาษี และอยากได้เงินปันผลที่สร้างกระแสเงินสดในการลงทุนไปพร้อมๆกัน กองทุนนี้อาจจะเป็นคำตอบสำหรับคุณครับ

ถ้าหากใครสนใจกองทุน KFLTFSTAR-D  หรือ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาว ไทยออลสตาร์ปันผลจากทาง บลจ.กรุงศรี สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางต่อไปนี้ครับ

  • 1.ติดต่อผ่าน line @ ได้ที่ @krungsriasset 
  • 2.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรไปเลยที่เบอร์ 026575757
  • 3.และสุดท้ายครับ ถ้าใครสะดวกเข้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับที่ https://www.krungsriasset.com/TH/Home.html

และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเนื้อหารายการกองทุนไหนดี SELECTED LTF RMF SEASON 3 ประจำปี 2018 ในตอนที่ห้านี้ครับ สุดท้ายผมขอเตือนอีกครั้งสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวม นั่นคือ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และ ศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน LTF RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน และถ้าหากไม่ได้ลงทุนตามเงื่อนไข อาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์นะครับผม