

ข้อแรก : บทความนี้บอกไม่ละเอียด
กรุอ่านดูแล้ว บทความนี้เขียนขึ้นโดยที่ไม่บอกเลยว่าผลตอบแทน 4-8% หาได้ที่ไหน แม่มระยำมากจริงๆ แทนที่มันจะบอกว่า ผลตอบแทนแบบนี้หาได้ที่ไหนทันที ต้องทำยังไง ต้องไปหาซื้อที่ไหนแบบไหน กรุรู้แต่กรุฝากออมทรัพย์ใช้เงิน กินของหรู ผ่อนมือถือซื้อของแพงไปวันๆ ทำไมบทความไม่บอกไปเลยว่ากรุต้องทำอะไรแบบเป็นขั้นเป็นตอนยังไง จริงๆต้องมาประเคนให้รู้สิวะ เหมือนตอนที่กรุป้อนข้าวหมาที่เป็นอัมพาตแถวบ้านน่ะ คือ เราไม่มีความรู้ทางการเงินไม่ได้แปลว่าเราไม่อยากรู้ แต่มันยากเกินไป คุณคนเขียนมรุงกรุณาบอกง่ายๆมาเลยสิครับว่าต้องทำยังไงที่ไหน แบบนี้ใช้ไม่ได้เลยห่วยสัสๆข้อสอง : ทำไม่ได้จริง
ใครมันจะไปทำได้วะ อายุ 22 ปีออมเงินได้เดือนละ 15,000 บาทที่ผลตอบแทน 4% ลองคิดถึงความเป็นจริงบ้างสิวะ แม่มเรียนจบมาเงินเดือนขั้นต่ำแค่ 15,000 บาท ในโลกนี้ไม่มีใครที่เพิ่งเรียนจบมาแล้วหาเงินได้มากกว่า 15,000 บาทหรอก ไอ้พวกที่หาได้มันก็ขี้โม้ ทุกคนน่ะเหมือนเรากันหมด ที่สำคัญตารางนี้ไม่ได้บอกให้ชัดๆเลยว่า ผลตอบแทน 4% 6% 8% ทั้งหลายนั้น มันคือการเปรียบเทียบที่บอกให้พวกเรารู้ว่า "ผลตอบแทนที่ต่างกันทำให้จำนวนเงินที่ใช้น้อยลง" กรุอ่านแล้วทำไม่ได้ไง ตอนนี้กรุก็อายุ 42 ปีแล้วเก็บเงินต่อไปคงไม่ทันการ ก็ขอใช้ชีวิตดักดานเป็นภาระลูกหลานไปก่อนดีกว่า เฮ้อ ทุกครั้งกรุเจอบทความแบบนี้ กรุต้องตั้งคำถามว่า "คนเขียนทำได้หรือยัง" เพราะถ้าคนเขียนทำไม่ได้ห้ามมาสอนกรุนะ กรุไม่เชื่อหรอก เมื่อเช้านี้แม่กรุสอนให้กรุเป็นคนดี กรุยังถามแม่กรุเลยว่า แล้วแม่เป็นคนดีหรือยัง นี่แหละสัสวิธีการคิดของคนจนอย่างเราๆ ต้องสงสัยว่าคนที่พูดทำได้ไหมแต่ต้องไม่สนใจนะว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรได้จากคำที่คนนั้นมันพูดข้อสาม : ยาวไปอ่านยาก
แม่มเขียนยาวเกินไป กรุยอมรับตรงๆว่า คนจนอย่างพวกเราแม่มได้เรียนหนังสือเหมือนคนรวยนะสัส แต่เราแม่มขี้เกียจอ่านบทความพวกนี้ว่ะมันยาวไป ไม่มีง่ายๆสั่นๆ ให้คนโง่ๆ เอ้ย อ่านเข้าใจง่ายๆบ้างหรอวะสัส กรุสงสัยจริงๆ ว่าจะเขียนยาวไปทำไม ความรู้ที่ดีต้องสั้นๆง่ายๆแม้แต่ควายยังเข้าใจได้สิดวกส์