สำหรับเรื่องปัญหาเรื่องความขี้เกียจนี้มีหลายคนถามกรุมาเหมือนกันว่า จะทำยังไงให้เลิกขี้เกียจได้ซักที พยายามมาเนิ่นนานหลายปีดีดักก็ไม่เห็นจะสำเร็จ วันนี้กรุจะมาบอกวิธีง่ายๆที่จะให้พวกมรุงเบิกเนตรวงแหวนกลายเป็นคนใหม่ภายในพริบตา เอาล่ะสัส พวกมรุงจงตั้งใจฟังเคล็ดลับดีๆ 5 ข้อ สไตล์พี่เกรย์วัยว้าวุ่น #อาจจะเหนื่อยบางครั้งอาจจะเจ็บบางที #อะไรนะธีร์เลิกกับภูแล้ว

ข้อแรก จงตั้งเป้าหมายให้ชัด

ก่อนที่มรุงจะเลิกขี้เกียจ มีสิ่งหนึ่งที่มรุงต้องชัดเจนก่อน คือ "เป้าหมาย" ไม่ใช่มาพูดลอยๆ คิดลอยๆ ไปวันๆ ไม่ฉะนั้นมรุงจะเป็นได้แค่คนอัพยาเท่านั้นแหละสัส แต่ถ้ามรุงอยากเลิกขี้เกียจ สิ่งสำคัญคือมรุงต้องล่าท้าเป้าหมายให้ชัด เอางี้... กรุจะยกตัวอย่างให้ฟัง

สมมติว่า มรุงอยากอ่านหนังสือสอบแต่เจือกขี้เกียจ ถ้ามรุงจะมาป่าวประกาศว่า "ผมจะเลิกขี้เกียจอ่านหนังสือแล้วครับ" กรุรับประกันได้เลยสัสอ่านไม่ถึงสิบห้านาทีมรุงก็กลับไปดูทีวีเหมือนเดิม #นี่คือตัวอย่างเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นมรุงต้องรู้ก่อนว่า มรุงจะอ่านหนังสือไป "เพื่อ" อะไร เช่น มรุงอยากจะอ่านหนังสือเพื่อสอบให้ผ่าน มรุงก็ต้องตั้งเป้าหมายไปเลยว่า "กรุจะสอบได้ที่หนึ่ง" แล้ววิธีการจะตามมา อยากสอบได้ที่หนึ่ง มรุงก็ต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้น แบบนี้ไงสัส

ทีนี้แม่มมีคนสงสัยแน่ๆสัส อยากจะสอบให้ผ่านแต่ทำไมต้องตั้งเป้าหมายให้ได้ที่หนึ่ง คำตอบกรุคือ การตั้งเป้าหมายชัดและใหญ่มันทำให้มรุงมีความพยายามมากกว่าเดิมไงสัส เพราะถ้ามรุงตั้งเป้าไปที่ดวงจันทร์ แม้พลาดฝันมรุงก็ได้ไปยังดวงดาว เหมือนมรุงต้ังเป้าสอบได้ที่ 1 แต่มรุงเสือกสอบได้ที่ 3 มันก็ยังดีกว่าแค่สอบผ่านไปวันๆไม่ใช่หรอวะสัสสสส

ข้อสอง เลิกหลอกตัวเอง

หลังจากเป้าหมายชัด มรุงก็ต้องเลิกหลอกตัวเองว่า มรุงเก่งมรุงเจ๋งมรุงดีมรุงคูลโก้หรูชิกกาปู้  แต่มรุงจงมองความจริงก่อนเลยสัสว่า มรุงมีอะไรที่สามารถทำได้บ้าง และมรุงมีจุดอ่อนอะไรสำหรับเป้าหมายที่มรุงวางไว้บ้าง

ที่กรุให้มองอย่างนี้ เพราะกรุต้องการให้มรุงเลิกหลอกตัวเองว่าตัวเองเก่ง ตัวเองดี เพราะนี่แหละคือจุดบอดของความขี้เกียจในชีวิตพวกมรุงไงละสัส และคำฮิตที่สุดที่พวกมรุงใช้หลอกตัวเองคือคำว่าอะไรรู้ไหม คือ คำว่า "จะ" กับ "เดี๋ยว" ไงสัส

"เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำ ...."  หรือไม่ก็ "เราจะ...  "

คำพวกนี้แม่มคือคำที่บอกว่ามรุงยังไม่ได้ทำ เหมือนกับ I will นั่นแหละ มันเป็นแค่ future tense ที่แม่มไม่รู้จะเกิดขึ้นได้หรือเปล่า ดังนั้นมรุงเลิกพูดคำพวกนี้ไปได้เลยสัส  กรุแนะนำให้ลองดูสักพัก มรุงจะประหลาดใจในความเปลี่ยนแปลงภายใน 21 วัน

ข้อสาม ลงมือทำทุกวัน

กรุเน้นย้ำเสมอว่า ความสำเร็จเล็กๆแม่มก่อเกิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นถ้ามรุงอยากเลิกขี้เกียจ มรุงจงทำทุกวันให้เป็นนิสัย สะสมบ่มไปเป็นสันดาน แล้วมรุงจะเลิกได้ เริ่มจากเล็กๆน้อยๆก็ได้สัส เช่น การออกกำลังกายทุกวันวันละ 15 นาที แม่มดีกว่ามรุงออกวันละ 15 ชั่วโมงแต่ออกได้แค่วันเดียวแล้วตายห่านไปเลยไงดวกส์

ข้อสี่ คิดถึงความชิบหาย

ถ้ามรุงทำไม่ได้ เพราะมรุงไม่มีวินัยในการทำทุกวัน สิ่งเดียวที่กรุแนะนำมรุงได้ นี่คือเคล็ดลับท่าไม้ตาย คือ การคิดถึงความชิบหายที่เกิดขึ้นถ้าหากมรุงไม่ได้ทำ #จิตวิทยาย้อนกลับจานเกรย์ เช่น ถ้ามรุงกำลังจะสอบแล้วขี้เกียจอ่านหนังสือ กรุบอกเลยมรุงคิดภาพมรุงสอบตกไว้เลยสัส ถ้าอยากสอบตกก็ทำไป หรือถ้ามรุงทำงาน มรุงคิดเลยสัส เจ้านายแม่มจะมาไล่มรุงออก มรุงเก็บข้าวของออกจากโต๊ะ เพื่อนมรุงโห่ร้องไล่มรุง .. ออกไปๆ นี่ไงสัส ชิบหายพอยังวะมรุง

ข้อห้า อายชาวบ้านบ้างสิสัส

ถ้ามรุงอยากประสบความสำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วมรุงยังขี้เกียจ มรุงดูอายุมรุงก่อนเลยสัสว่าอายุเท่าไร เพราะทุกช่วงอายุของมรุงน่ะ มันมีคนเก่งกว่ามรุงตลอดแหละสัส มองดูเขาแล้วย้อนมองตัวเรา ถามตัวเองเลยสัส "กรุทำอะไรอยู่วะ" ถ้ายังไม่ได้คำตอบว่าทำอะไรอยู่ นั่นไงสัส มรุงแม่งขี้เกียจ ว้ายยย กิ๊วๆๆๆๆ หน้าไม่อาย สมน้ำหน้าสัสสๆๆๆๆๆ

สุดท้าย

ความขี้เกียจมันไม่ใช่นิสัย มันไม่ใช่สันดาน

มันเป็นเพียงข้ออ้างในจิตใจขี้แพ้ของมรุงต่างหากสัส !!!!