ตัวเลขแรกที่เราเห็น คือตัวเลขที่เราจะยึดเป็นมาตรฐานในการหาความคุ้มค่า
สมมติว่า เรากำลังซื้อสินค้าชนิดหนึ่ง โดยที่เราไม่เคยรู้ราคามาก่อน สิ่งที่เราพยายามจะทำคือการ ‘ประมาณราคา’ สิ่งนั้น และเมื่อเราได้รับราคาของสินค้าประเภทนั้นมา ตัวเลขแรกที่เราได้รู้จะกลายเป็นค่ากลางในการวัดความคุ้มค่า เทียบกับราคาของสินค้าประเภทนั้น หากมากไปกว่านั้นคือแพง แต่ถ้าน้อยกว่าคือถูก
เป็นปกติที่เราอยากจะซื้อสินค้าราคาถูก เมื่อเราเจอสินค้าประเภทเดียวกันในราคาต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่เราตั้งเอาไว้ ก็มีโอกาสสูงที่เราจะซื้อสินค้านั้น และนี่คือการทำงานของ ‘Anchor Effect’ หนึ่งในผลการศึกษาด้านจิตวิทยา และเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม โดย แดเนียล คาฮ์นะมัน เจ้าของรางวัลโนเบลเมมโมเรียลสาขาเศรษฐศาสตร์วิทยาศาสตร์ ประจำปี 2002 และผู้เขียน ‘Thinking, Fast and Slow’ โดย aomMONEY อยากพาไปเจาะลึกในเรื่องนี้กัน
การตลาดโดยใช้ ‘Anchor Effect’ เป็นแกนหลัก
เมื่อนักการตลาดรู้แล้วว่าลูกค้าชอบสินค้าราคาถูก จึงคิดกลยุทธ์การตลาดขึ้น โดยใช้อิทธิพลจาก Anchor Effect ในการตั้งราคาให้สูงไว้ตั้งแต่แรก เพื่อให้ลูกค้าจำ และยึดติดกับราคานี้เป็นค่ามาตรฐาน และต่อด้วยการนำเสนอราคาที่ถูกกว่าในรูปแบบการลดราคา หรือ ‘ราคาพิเศษเฉพาะคุณ’ ก็จะสามารถเรียกความสนใจของลูกค้าได้แทบจะทันที
ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมระดับ 5 ดาว จะแสดงราคาห้องพักคืนละ 30,000-50,000 บาท แต่จริงๆ แล้วราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อคืนเท่านั้น นักการตลาดก็จะใส่ดีลลดราคาไว้ตามเว็บไซต์ดีลต่างๆ เพื่อเสนอกลยุทธ์การลดราคาให้เรา ซึ่งพอเราเห็นก็จะรู้สึกว่าถูกมากทันที เพราะถูกครอบงำด้วยตัวเลขสูงๆ ตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ Anchor Effect สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลากหลายสถานการณ์ และกลยุทธ์การจูงใจลูกค้า ซึ่งรวมไปถึงราคาของสินค้าขนาดเล็ก และโลกแห่งการลงทุนด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าที่ใดมีตัวเลข และเราต้องจ่ายเงินตามตัวเลขนั้น Anchor Effect ก็สามารถสร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจได้ทั้งสิ้น
ลูกค้าอย่างเรา ต้องรู้จักรับมือ ‘Anchor Effect’
Anchor Effect เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการชักจูงให้เราตัดสินใจซื้อในแนวทางที่นักการตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์นับร้อยนับพันที่ใช้ล่อลวงผู้บริโภค ซึ่งอาจทำให้เราตัดสินใจซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น หรือในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเราควรตระหนักถึงกลยุทธ์เหล่านี้
1. รู้ทันกลยุทธ์การตลาด
เมื่อทราบถึงเทคนิค Anchor Effect ก็จะช่วยให้เรามองเห็นกลยุทธ์นี้ได้ชัดเจนขึ้น และตั้งสติเวลาตัดสินใจซื้อของ
2. ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน
ก่อนซื้อสินค้าที่มีราคาสูง อย่าเชื่อข้อมูลเพียงด้านเดียว ให้ค้นหาความคิดเห็น ข้อมูลตลาด และราคาจากแหล่งต่างๆ ให้รอบด้าน
3. แยกแยะความต้องการจริง
ให้แน่ใจว่าเรากำลังตัดสินใจซื้อจากความต้องการจริง ไม่ใช่เพราะกลยุทธ์ทางการตลาดของธุรกิจ
4. ตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า
มีการวางแผนการเงินเป็นอย่างดี และตั้งงบประมาณซื้อสินค้าไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้เราตัดสินใจอย่างมีสติยิ่งขึ้น
“ปรากฏการณ์ที่เรากำลังศึกษาอยู่นั้นเป็นเรื่องธรรมดา และสำคัญมากในโลกทุกวันนี้ จนคุณควรรู้ชื่อของมัน”
- แดเนียล คาฮ์นะมัน -
เพราะต้องบอกว่า Anchor Effect เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรม และจิตวิทยาของมนุษย์เราเอง แต่ก็เป็นความจริงเช่นกันที่เราไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเรามีหลักความคิดแบบนี้ หรือมักจะแสดงพฤติกรรมต่างๆ ออกมาโดยสัญชาตญาณ หรือการขับเคลื่อนจากจิตใต้สำนึก
สิ่งที่จะทำให้ลูกค้าอย่างเราสามารถรับมือกับกลยุทธ์เหล่านี้ เพื่อตัดสินใจได้รอบคอบด้วยตนเองจริงๆ คือการศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน แยกแยะความต้องการจริงๆ ของเรา ที่สำคัญคือการวางแผนการเงินให้มั่นคง และรอบคอบ ก็จะทำให้เราตัดสินใจใช้จ่ายอย่างมีสติมากขึ้น
ร่วมระลึกถึง ‘แดเนียล คาฮ์นะมัน’ ผู้ล่วงลับ - 27 มีนาคม 2024 วัย 90 ปี
เขียน: ชลทิศ
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช