เชื่อว่าต้องผ่านตากันมาบ้าง กับข้าวตัง แบรนด์ ‘เจ้าสัว’ ที่ปัจจุบันเปิดตัวไปแล้วกว่า 8 รสชาติ โดยหากยังจำกันได้ สมัยก่อนข้าวตังเจ้าสัวไม่ได้พบเห็นได้ทั่วไปแบบทุกวันนี้ แต่หาซื้อได้ที่ ‘โคราช’ เท่านั้น กว่าจะได้ทานทีหนึ่ง ต้องรอคนซื้อมาฝาก แต่ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นในร้านสะดวกซื้อ หรือปั๊มน้ำมัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ข้าวตังเจ้าสัวเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

💪 สร้างจุดแข็ง ของทานเล่นที่มีประโยชน์

ปกติแล้วภาพจำของทานเล่น ยิ่งเป็นจำพวกขนมขบเคี้ยว เรามักมีภาพลักษณ์ของอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น น้ำตาลสูงเกินไป หรือประกอบไปด้วยแป้งเป็นส่วนใหญ่โดยขาดสารอาหารประเภทอื่น แต่ข้าวตังเจ้าสัวสามารถเฉิดฉายขึ้นมาในฐานะ ‘ของทานเล่นที่มีประโยชน์’ (Better for You Snacks) เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ใยอาหารและวิตามินจากถั่ว-ธัญพืช และข้าวหอมมะลิแท้ ซึ่งเป็นจุดยืนทางการตลาดที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ และแสดงให้เห็นว่าแบรนด์โฟกัสกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น

เนื่องจากในปัจจุบันเทรนด์ผู้บริโภคของคนไทยที่ใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์จึงกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ แทนการทานขนมที่อร่อย แต่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

✈️ จากแบรนด์ของฝาก สู่สินค้าส่งออกระดับโลก

อย่างที่เราทราบกันไปว่า ข้าวตังเจ้าสัว เริ่มต้นจากการหาซื้อได้เฉพาะในนครราชสีมาเท่านั้น แต่เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 63 ปี ที่แบรนด์ได้ตัดสินใจขยับขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่เป็นหนึ่งในตัวเลือกยามหิวของผู้บริโภค จึงได้หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยการมีพรีเซนเตอร์อย่าง ครอบครัว แมทธิว-ลิเดีย และเจมส์ จิรายุเพื่อสร้างการจดจำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยโฟกัสไปยังช่องทางค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade)

นอกจากการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ภายในประเทศแล้ว ข้าวตังเจ้าสัวยังขยับขึ้นเป็นสินค้าส่งออกไปยัง ต่างประเทศกว่า 12 ประเทศ โดยเน้นไปที่สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง จีน และออสเตรเลีย ซึ่งเรียกได้ว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และด้วยช่องทางการขายแบบออนไลน์ ลูกค้าของข้าวตังเจ้าสัวจึงเรียกได้ว่ากระจายอยู่ทั่วโลก

❤️ หัวใจสำคัญ คือการ ‘ทำความเข้าใจลูกค้า’

แม้จุดยืนของข้าวตังเจ้าสัวจะเรียกได้ว่ามีความแตกต่างอย่างแข็งแกร่ง ไปจนถึงมีฐานลูกค้าต่างประเทศ แต่แบรนด์ยังคงเดินหน้าไปยังเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้ได้อยู่เสมอ ด้วยการศึกษาความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายก่อนการนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด โดยไม่ลืมติดตามสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมคงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์เอาไว้อย่างครบถ้วน

ข้อมูลจากงบการเงิน ไตรมาสที่ 3/2566 ของบริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่ได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พบว่า 9 เดือนแรกของปี 2566 พบว่ามีรายได้เฉพาะในส่วนงานอาหารแปรรูปกว่า 1,054 ล้านบาท และมีกำไร 118 ล้านบาท หรือกว่า 11.20%

💰 เป้าหมายต่อไป คือการเติบโตในตลาดหลักทรัพย์

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO บริษัทแม่ของแบรนด์ข้าวตังเจ้าสัว และ โฮลซัม ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 87,684,100 หุ้น คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 29.2 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเติบโตขึ้นไปอีกขั้นของอาณาจักรของขบเคี้ยว และอาหาร ‘เจ้าสัว’

อย่างไรก็ตามแม้ในปี 2566 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงขาลง และมีเสียงสะท้อนว่าอาจจะยังไม่เหมาะที่ธุรกิจจะเปิด IPO แม้จะมีสัญญาณว่าปี 2567 นี้ ตลาดหุ้นจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นไปตามนั้น แต่ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ และจุดมุ่งหมายในการปรับเปลี่ยนให้ทันกับยุคสมัย ก็มีแนวโน้มว่า ‘เจ้าสัว’ จะยังสามารถสร้างความสำเร็จใหม่ๆ ในปีนี้ได้