เป็นคำถามที่พบบ่อยมากทุกครั้งที่ไปบรรยายเรื่องการเงินหลังเกษียณ เพื่อตอบเรื่องนี้ เราไปดูกฎหมายของสรรพากรก่อนดีกว่าว่าใครบ้างต้องเสียภาษี
สรรพากร กำหนดผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมา โดยมีสถานะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
บุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ดังนั้น ผู้ที่เกษียณอายุ หรือ คนสูงอายุ จึงไม่ได้รับการยกเว้นว่าไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เงินได้ทุกอย่างต้องเสียภาษีเงินได้ มีเงินได้บางอย่างเหมือนกันที่ผู้สูงอายุได้รับแล้ว ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ เราลองมาดูรายละเอียดกันว่าเงินได้ไหนเสียภาษี เงินได้ไหนไม่เสียภาษีเงินได้
“เงินได้” ที่ผู้เกษียณอายุไม่ต้องเสียภาษี
เงินจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข)
เงินและผลตอบแทนที่ได้รับจาก กบข. รวมถึงผลตอบแทนที่เกิดขึ้นนับจากวันที่ให้ กบข. บริหารต่อจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น กรณีที่ข้าราชการออกจากราชการเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว หรือลาออกเมื่ออายุครบ 50 ปีบริบูรณ์แล้ว
เงินก้อนหรือเงินรับรายงวดจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
กรณีลูกจ้างออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ต้องเกษียณอายุตามข้อบังคับของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีอยู่ในเวลาที่ออกจากงาน โดยการเกษียณอายุตามข้อบังคับนั้นลูกจ้างต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ และต้องเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีต่อเนื่องกัน ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น
เงินบำเหน็จบำนาญ
กรณีชราภาพประกันสังคม ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น
เงินที่ได้จากการขายคืน RMF
กรณีผู้ลงทุนลงทุนและถือหน่วยลงทุนจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก ผลประโยชน์ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น
ผลประโยชน์ประกันชีวิตแบบบำนาญ
ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น
ผลประโยชน์ประกันชีวิตแบบทั่วไป
ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักร
เฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาการฝากตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันมีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 30,000 บาทตลอดปีภาษีนั้น ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น โดยผู้มีเงินได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์หากดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันมีจำนวนเกิน 30,000 บาทตลอดปีภาษี ให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายทั้งจำนวน และนำส่งกรมสรรพากร
เงินบำเหน็จดำรงชีพ
ที่ได้รับตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้น
“เงินได้” ที่ผู้เกษียณแล้วต้องเสียภาษี
เงินได้โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินได้จากการรับจ้างทำงานให้ เงินได้จากวิชาชีพอิสระ หรือ เงินได้จากการให้เช่า ฯลฯ เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีทั้งนั้น แต่ก็มีเงินได้บางอย่างที่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ต้องเสียภาษี อย่างเช่น
เงินบำเหน็จ บำนาญที่ข้าราชการได้รับจากกรมบัญชีกลาง เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี โดยจัดเป็นเงินได้ประเภทเดียวกันเงินเดือนตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ได้รับสิทธิยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพที่รัฐบาลจ่ายให้ ถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40( แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ได้รับสิทธิยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
ค่าลดหย่อน สำหรับผู้เกษียณแล้ว
ผู้ที่มีเงินได้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันในปีภาษีนั้น ให้ยกเว้นเงินได้ 190,000 บาท โดยผู้มีเงินได้สามารถเลือกใช้สิทธิยกเว้นประเภทใดประเภทหนึ่งก็ได้ หรือจะใช้สิทธิยกเว้นเงินได้จากเงินได้หลายประเภทก็ได้ แต่เมื่อรวมแล้วต้องไม่เกิน 190,000 บาท เช่น หักจากรายได้เงินบำนาญอย่างเดียว หักจากรายได้เงินค่าเช่าอย่างเดียว หรือหักทั้ง 2 ช่องทางรวมกันต้องไม่เกิน 190,000 บาท
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ผู้สูงอายุยังมีหน้าทีต้องเสียภาษีเงินได้อยู่ก็ตาม แต่ก็ยังมีสิทธิในค่าลดหย่อนต่างๆ ที่จะช่วยให้ประหยัดภาษีเงินได้ได้มากขึ้น อย่างเช่น
การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ แต่รวมกับเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนรวมหรือ กบข. ต้องไม่เกิน 500,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น
การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้แต่ไม่เกิน 200,000 บาท แต่รวมกับเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนรวมหรือ กบข. ต้องไม่เกิน 500,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น
การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG หรือ Thai ESG) ได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
การลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตตามจ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท
เรื่องภาษีเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด แม้จะเกษียณจากการทำงานแล้ว แต่ไม่สามารถเกษียณจากการเสียภาษีได้ ตราบใดที่เรายังมีรายได้ที่เข้าข่ายและถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี เราก็ต้องคอยบริหารจัดการเรื่องนี้อยู่เสมอ
เขียน: สาธิต บวรสันติสุทธิ์, นักวางแผนการเงิน CFP
ภาพ: ภควดี เหมภาณิช