วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่เขาใช้เลือกธุรกิจนั้นสร้างมูลค่าทางทรัพย์สินให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกถึง 110,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท)

แต่นอกจากความสามารถในการเลือกลงทุนในธุรกิจและมองการณ์ไกลของเขาแล้ว นิสัยทางการเงินแบบสุดแสนประหยัด ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นคือตัวอย่างที่ดีของบัฟเฟตต์เช่นเดียวกัน แม้จะร่ำรวยมากขนาดไหน วิถีการใช้ชีวิตอย่างประหยัดของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ซึ่งเราก็สามารถนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในชีวิตของเราได้เช่นเดียวกัน

1. เลือกอาชีพที่คุณรัก

บัฟเฟตต์เน้นย้ำเสมอถึงความสำคัญของการเลือกอาชีพที่คุณหลงใหล หลักการก็คือว่ามันมีแนวโน้มที่คุณจะทำงานได้ดีและมีรายได้ที่ดีเมื่อคุณรักในงานนั้น และมันจะช่วยให้คุณใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น เพราะไม่ถูกล่อลวงให้ซื้อของตามแรงกระตุ้นเพื่อชดเชยการต้องไปทำงานที่ไม่มีความสุขแทน บัฟเฟตต์เคยบอกว่า

“ไม่มีซีอีโอคนไหนที่ดีกว่านี้แล้ว ผมเหมือนเต้นรำไปทำงานทุกวันเลย”

2. แต่งงานกับคนที่เห็นคุณค่าเรื่องการเงินเหมือนกับคุณ

บัฟเฟตต์แต่งงานกับภรรยาคนแรกของเขามานานกว่า 50 ปีจนกระทั่งเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 2004 บัฟเฟตต์แต่งงานใหม่กับ แอสทริด เม็งส์ (Astrid Menks) ตั้งแต่ปี 2006 การแต่งงานที่มั่นคงบนรากฐานของค่านิยมที่มีร่วมกัน ซึ่งก็รวมถึงค่านิยมทางการเงินด้วยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ การแต่งงานกับใครสักคนที่มีความคิดประหยัดเหมือนคุณจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้ไม่ยากนัก

ลูกสาวของบัฟเฟตต์กล่าวถึง เม็งส์ หลังจากงานแต่งงานของพ่อและแม่เลี้ยงใหม่ว่า

“ฉันรู้สึกขอบคุณมาก เธอรักและดูแลเขา ถ้าวอร์เรนไม่มีเงินสักบาท เธอก็จะอยู่กับเขาอยู่”

3. อย่าลงทุนด้วยเงินที่หยิบยืมมา

บัฟเฟตต์เตือนเสมอว่าอย่ายืมเงินมาลงทุน เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เพราะการกู้ยืมเงินทำให้คุณมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินมากกว่าที่ลงทุนไปในตอนแรก หากตลาดได้เป็นไปในทางที่คาดหวัง เพราะฉะนั้นการออมและการลงทุนด้วยเงินของตัวเองคือสิ่งที่ควรจะทำ บัฟเฟตต์กล่าวในการปราศรัยที่มหาวิทยาลัยนอเทรอดามในปี 1991 ว่า

“ผมเคยเห็นคนจำนวนมากล้มเหลวเพราะเหล้าและเลเวอเรจ — เลเวอเรจก็คือการยืมเงินนั่นแหละ คุณไม่จำเป็นต้องมีเลเวอเรจในโลกนี้มากนัก ถ้าฉลาดคุณจะทำเงินได้มากมายโดยไม่ต้องยืมเลย”

4. ซื้อบ้านเท่าที่จำเป็น

แม้ว่าจะร่ำรวยจนจะซื้อบ้านกี่หลังก็ได้บนโลกใบนี้ บัฟเฟตต์ก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่เรียบง่ายที่ซื้อตั้งแต่ในปี 1958 ด้วยราคา 31,500 เหรียญ โดยแนะนำให้ซื้อบ้านตามความจำเป็นใช้สอย ไม่ใช่ว่ายิ่งมีมากต้องยิ่งซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ นอกจากจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังเงินที่เหลือก็เอาไปลงทุนที่อื่นได้อีกด้วย

5. รถยนต์คือยานพาหนะ

หลายคนคงทราบดีว่าบัฟเฟตต์ยังคงขับรถรุ่นเก่าที่ไม่ได้มีอะไรหรูหรา เพราะเขาเชื่อว่ารถยนต์เป็นเพียงยานพาหนะ ไม่ใช่สัญลักษณ์แสดงสถานะอะไร ซื้อรถยนต์ที่เชื่อมั่นได้และประหยัดน้ำมัน ตามความจำเป็นในการใช้งานก็เพียงพอแล้ว ซึ่งปัจจุบันบัฟเฟตต์ก็ยังใช้รถยนต์ Cadillac XTS ปี 2014 อยู่เลย

6. อัปเกรดเมื่อจำเป็นต้องอัปเกรด

ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราพยายามวิ่งตามเทรนด์และสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่อย่างต่อเนื่อง (อาจจะไม่ใช่ความผิดของเราซะทั้งหมด แต่กระแสโลกเองที่ผลักดันให้เป็นแบบนั้น) แต่เราก็ต้องคอยถามตัวเองว่าเราต้องการโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่จริง ๆ เหรอ? หรือแค่อยากตามคนอื่นเท่านั้น?

คำแนะนำของบัฟเฟตต์คือให้ยับยั้งความรู้สึกว่าต้องอัปเกรดโดยไม่มีความจำเป็น ไม่เพียงแต่จะประหยัดเงินเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าสินค้าเหล่านี้ล้วนกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ยากต่อการทำลายทั้งสิ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ บัฟเฟตต์ใช้โทรศัพท์รุ่นฝาพับของตัวเองที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2008 แล้วเพิ่งมาเปลี่ยนเป็น iPhone 11 ในปี 2020 นี้เอง

7. ให้ระมัดระวังเรื่องการกู้เงิน

บัฟเฟตต์เตือนเรื่องการไม่ให้เป็นหนี้โดยไม่จำเป็น หากคุณต้องกู้เงิน ให้ทำเพื่อวัตถุประสงค์ที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ซื้อบ้านหรือจ่ายค่าเล่าเรียน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถชำระเงินรายเดือนและตั้งเป้าที่จะชำระคืนเงินกู้อย่างรวดเร็ว

“ถ้าคุณซื้อของที่ไม่จำเป็น ในไม่ช้า คุณจะต้องขายของที่จำเป็น” – วอร์เรน บัฟเฟตต์

8. โฟกัสไปที่คุณภาพมากกว่าแบรนด์

ถ้าต้องซื้อของบัฟเฟตต์จะแนะนำว่าให้โฟกัสไปที่คุณภาพมากกว่าแบรนด์ เลือกสินค้าที่ให้คุณค่ามากที่สุดสำหรับเงินที่จ่ายไป ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม แนวคิดนี้จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าในระยะยาวได้อย่างแน่นอน

9. หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

วอร์เรน บัฟเฟตต์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องนิสัยการใช้จ่ายที่ไม่สุรุ่ยสุร่ายกับสิ่งของราคาแพงเพียงเพราะสามารถจ่ายได้ เขามุ่งเน้นไปยังที่สิ่งที่สร้างคุณค่าให้กับชีวิตของเขาและหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น บัฟเฟตต์จะคอยคิดในแง่ของความจำเป็นและคุณค่าในการใช้จ่ายของเขาอยู่ตลอด ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความมั่งคั่งและไม่ชอบการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ไม่ว่าจะรวยขนาดไหนก็ตาม

10. ซื้ออาหารในราคาที่คุ้มค่า

ระหว่างขับรถจากบ้านไปที่ทำงานที่ห่างออกไปเพียง 5 นาที บัฟเฟตต์จะแวะแมคโดนัลด์เพื่อซื้ออาหารเช้าเกือบทุกวันตลอด 54 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีเงินเพื่อซื้ออาหารเช้าราคาหรูหราได้ไม่ยาก แต่อาหารเช้าของเขาราคาต่ำกว่า 5 เหรียญซะอีก แม้ว่าเราไม่จำเป็นต้องกินแมคโดนัลด์ทุกวันเหมือนบัฟเฟตต์ เพราะที่จริงแล้วเมื่อเทียบกับราคาบ้านเราก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่ แต่แนวคิดก็คือว่าเราสามารถมองหาสิ่งที่คุ้มค่าเมื่อซื้ออาหาร ยึดตามงบประมาณและจัดลำดับความสำคัญของอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอและราคาไม่แพง

11. อย่ามองข้ามคูปองส่วนลด

ในจดหมายประจำปี 2017 ของบิลและเมลินดา เกตส์ ซึ่งส่งถึงบัฟเฟตต์เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมายาวนาน บิลเล่าถึงมื้อกลางวันราคาประหยัดที่บัฟเฟตต์พาเขาไปเมื่อหลายปีก่อนว่า

“จำเสียงหัวเราะที่เรามีตอนที่ไปเที่ยวด้วยกันที่ฮ่องกงและไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านแมคโดนัลด์ได้ไหม? คุณเสนอที่จะจ่าย ล้วงกระเป๋า และดึง… คูปองออกมา!”

บัฟเฟตต์เข้าใจถึงคุณค่าของการออมเงินแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม ไม่เคยมองข้ามการใช้คูปองและมองดีลต่าง ๆ ลดค่าใช้จ่ายเมื่อทำได้

12. ใช้เงินสด

หนึ่งในนิสัยบัฟเฟตต์ที่ทำมาโดยตลอดคือการใช้เงินสดในการจับจ่ายซื้อของ เมื่อใช้เงินสดทำให้ติดตามการใช้จ่ายง่ายขึ้น รู้ว่าเงินออกไปตรงไหนบ้าง ช่วยให้ตัดสินใจเรื่องเงินได้ดีขึ้น เมื่อยื่นเงินสด เราจะรู้สึกถึงน้ำหนักของเงินที่จ่ายออกไป กระตุ้นให้คิดทบทวนอีกครั้งก่อนที่จะซื้อของที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีไม่สร้างหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย

13. ซื้อของเมื่อได้ส่วนลด

จากนิสัยการลงทุนของบัฟเฟตต์ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าเขามักจะมองหาดีลที่ดีที่สุดเสมอ อย่างการซื้อของเมื่อมันลดราคา แต่ตรงนี้ต้องระวังให้ดี ของลดราคาไม่ได้หมายความว่าเป็นของที่มีคุณค่าที่จะซื้อได้ ต้องทำการบ้านและเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ อดทนรอราคาที่ต้องการ เงินที่หามาอย่างยากลำบากก็ควรใช้มันอย่างมีคุณค่าเช่นกัน

14. แต่งงานแบบง่าย ๆ

ตอนที่บัฟเฟตต์แต่งงานกับแอสทริด ภรรยาคนที่สอง เขาจัดพิธีแต่งงานที่บ้านลูกสาวของเขาแบบเรียบง่ายมาก ๆ แม้ว่างานแต่งงานเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องฟุ่มเฟือย การเฉลิมฉลองที่เรียบง่ายก็มีความหมายและน่าจดจำได้พอๆ กัน ด้วยการเลือกจัดงานแต่งงานที่เรียบง่าย คุณสามารถประหยัดเงินได้มากและเริ่มต้นชีวิตแต่งงานด้วยฐานทางการเงินที่มั่นคงด้วย

15. ลงทุนในสิ่งที่สร้างกระแสเงินสด

หนึ่งในเคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟตต์คือการลงทุนในสิ่งต่าง ๆ ที่สร้างกระแสเงินสด หุ้นที่จ่ายเงินปันผล อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า และหุ้นในธุรกิจที่ทำกำไรล้วนเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการลงทุนที่มีกระแสเงินสด การลงทุนเหล่านี้สามารถทำให้คุณมีรายได้ที่สม่ำเสมอและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่งคั่งโดยรวม การประหยัดในการลงทุนคือการไม่ซื้อสิ่งที่ไม่มีมูลค่าที่แท้จริงหรือกระแสเงินสด ทุกอย่างต้องมีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไป

สรุป

นี่คือนิสัยการเงินสุดประหยัดของบัฟเฟตต์ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตและสถานะการเงินของคุณได้หากนำไปใช้ นอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋า ลดการก่อหนี้เสีย ได้ของที่มีคุณค่าเหมาะสมกับเงินที่จ่ายไปแล้ว ยังสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้อีกด้วย จำเอาไว้ว่ามันไม่เกี่ยวว่าจะหาเงินได้มากขนาดไหน แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเก็บเงินและทำให้มันงอกเงยได้มากขนาดไหนต่างหาก

======

https://www.newtraderu.com/2023/03/28/warren-buffetts-15-smartest-frugal-living-habits-you-need-to-start-asap/

https://www.bloomberg.com/billionaires/profiles/warren-e-buffett/

https://www.nytimes.com/2006/09/01/business/01buffett.html

https://www.newtraderu.com/2023/02/13/a-look-at-the-the-warren-buffett-house-2023-his-humble-home/

https://www.cnbc.com/2020/02/24/apple-investor-warren-buffett-traded-in-his-flip-phone-for-an-iphone.html

https://www.newtraderu.com/2023/03/02/what-frugal-billionaire-eats-almost-every-breakfast-at-mcdonalds/