พอกล่าวถึง ‘การวางแผนการเงิน’ ส่วนใหญ่แล้วเป็นการมองไปยังอนาคตที่ไกลออกไป 5 ปี 10 ปี หรือ 30-40 ปีข้างหน้า

เป้าหมายเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่ในขณะเดียวกันหลายต่อหลายคนโฟกัสเพียงแต่เป้าหมายที่ไกลออกไปมากเกินไป ช่วงเวลาในอนาคตว่าจะต้องมีเงินเท่านั้นเท่านี้ ความสำเร็จมากมายตามที่หวังเอาไว้ จนลืมและเพิกเฉยตัวเองและความสุขของตัวเองในเวลานี้ไปเลย

เพรสตัน เชอร์รี่ (Preston Cherry) นักวางแผนการเงิน ผู้ก่อตั้งและประธารบริษัทวางแผนการเงิน “Concurrent Finanancial Planning” ที่รัฐวิสคอนซิน ประเทศอเมริกากล่าวว่า

“การทำให้ตัวเองในปัจุจบันอดอยากสามารถบั่นทอนกำลังใจได้”

ซึ่งอาจจะนำไปสู่การล้มเลิกเป้าหมายทางการเงินที่วางเอาไว้ด้วย เชอร์รี่แนะนำว่าในช่วงวัยหนุ่มสาวก็มีหลาย ๆ อย่างที่ทำได้ “และบางประสบการณ์อาจจะเหมาะกับตอนนี้มากกว่าภายหลัง ทำให้มีความสุขใจมากขึ้นและทำให้รู้สึกเสียดายน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป”

เราอาจจะรู้สึกว่าต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน มีชีวิตที่ลำบากตอนนี้แล้วค่อยมีความสุขภายหลังก็ได้ แต่เชอร์รี่บอกว่าที่จริงแล้วเราไม่ควรต้องเลือกว่าจะมีความสุขในตอนนี้หรือแค่อนาคตเท่านั้น เราสามารถที่จะมีความสุขได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ซึ่งคำแนะนำสองข้อของเขาเพื่อให้ชีวิตของเรามีสมดุลมากขึ้นคือ

1. ‘ความต้องการคือความจำเป็น เช่นเดียวกัน’

เรามักได้ยินว่าให้แยกให้ออกระหว่าง ‘ความต้องการ’ (wants) และ ‘ความจำเป็น’ (needs) แต่บางครั้งเส้นแบ่งระหว่างสองอย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องชัดเจนเป็นขาว-ดำ ขนาดนั้น เชอร์รี่แนะนำว่า

“ในบริบทนี้ ความต้องการคือความจำเป็น เช่นเดียวกัน”

มันจะช่วยได้มากถ้าลองคิดว่าสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกันยังไง เขายกตัวอย่างว่า มันเป็นเรื่องที่ดีในการเก็บเงินเพื่ออนาคต เมื่อเราแก่ตัวไป มันเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากทำอยู่แล้ว เพราะทุกคนทราบดีว่าถ้าไม่เก็บเลยก็จะรู้สึกเครียดเกินไป (เครียดว่าอนาคตจะไม่มีเงิน) แต่ในทางกลับกัน การจ่ายเงินก็เป็นวิธีที่ทำให้เรารู้สึกดีในเวลานี้ ทำให้การเก็บเงินเพื่ออนาคตไม่ได้เป็นสิ่งที่โหดร้ายเกินไปนัก

“อย่าใจร้ายกับตัวเองเกินไป ให้ตัวเองใช้เงินบ้าง”

ซื้อความสุขให้ตัวเองบ้าง เพราะเส้นทางสู่เป้าหมายการเงินทั้งยาวและขรุขระ

2. ‘เลือกเฟ้นความสุขให้ดี’

แม้เชอร์รี่จะบอกว่าให้ใช้เงินเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเอง แต่เขาก็เน้นย้ำว่า ‘เลือกเฟ้นความสุข’ นั้นให้ดี

อย่างแรกเลยเป้าหมายการเงินเป็นสิ่งสำคัญ เราไม่อยากจะมือเติบ เอาเงินที่ควรจะเก็บเพื่ออนาคตมาใช้ถลุงในวันนี้จนหมด อย่าใช้เงินจนกระทบกับเป้าหมายที่สำคัญในชีวิต อย่าไปใช้เงินกับสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้นำความสุขหรือความหมายมาให้กับชีวิตของคุณจริง ๆ

เชอร์รี่แนะนำว่าคุณควรจะย้อนดูด้วยว่าเงินที่จ่ายไปนั้นเหมาะสมในระยะยาวไหม

“ทุกคนสามารถมีความสุขได้ในหลาย ๆ แบบ ตั้งแต่ของขวัญต่างๆไปจนถึงประสบการณ์ และหนึ่งในของเหล่านี้อาจจะนำความสุขมาให้กับช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตมากกว่าอย่างอื่น ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่สร้างความสุขให้กับผู้คน สนับสนุนให้ทำสิ่งเหล่านี้ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ดีและอยู่ในขอบเขตที่พวกเขาทำได้”

เชอร์รี่ไม่ได้บอกว่าให้ใช้เงินทุกบาทเพื่อซื้อความสุขในเวลานี้ หรือเก็บทุกบาทเพื่ออนาคต แต่เป็นการหาสมดุลให้เจอ

ซื้อความสุขให้กับตัวเองในเวลานี้บ้าง อย่าให้ชีวิตมันแห้งเหี่ยวจนเกินไป อยากเที่ยว อยากกิน อยากได้อะไร ตอนนี้ ถ้าซื้อได้แบบไม่กระทบกับแผนการเงินสำหรับอนาคต (เกษียณ, ซื้อบ้าน, ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย ฯลฯ) ‘ก็ซื้อที่มันเหมาะสมและมอบความสุขที่ยั่งยืน’ กับเราจริง ๆ ส่วนแผนการเงินสำหรับอนาคตก็อย่าลืม ทำต่อไป เพราะถึงเวลาต้องใช้ เราก็ย้อนเวลากลับมาเก็บใหม่ ก็ทำไม่ได้แล้ว