ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานสัมมนาสุดพิเศษในหัวข้อ “Krungsri Exclusive Economic and Investment Outlook 2017” ซึ่งได้รวบรวมสุดยอดวิทยากรจากหลากหลายแขนงความเชี่ยวชาญมาสรุปภาพรวมทิศทางของเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2017  ตั้งแต่ Mr.Raja Mukherji ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ดร.สมประวิณ มันประเสริญ คุณศิริพร สินาเจริญ และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร โดยลงทุนศาสตร์ขอขันอาสารับหน้าที่เป็นผู้สรุปสุดยอดสัมมนาชั้นเยี่ยมครั้งนี้ให้ทุกท่านได้รับฟังราวกับนั่งอยู่ติดขอบเวทีกันเลย

มุมมองระดับโลก โดย Mr.Raja Mukherji, Head of Asian Credit Research, PIMCO

PIMCO คาดว่าจะได้เห็นการเติบโตต่อเนื่องทั่วโลกในปี 2017 นี้ ซึ่งจะช่วยถ่วงดุลกับสภาวะการลงทุนที่ยังไม่แน่นอนท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 ประการ อันได้แก่ การเปลี่ยนจากนโยบายการเงินสู่นโยบายการคลัง การเปลี่ยนจากกระแสโลกาภิวัฒน์สู่อโลกาภิวัฒน์ (Globalization to De-globalization) และการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศจีน โดยความไม่แน่นอนดังกล่าวจะทำให้ปี 2017 เป็นปีที่น่าจะได้เห็นปรากฏการณ์สำคัญทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ

มุมมองระดับประเทศ โดย ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาถือว่าเติบโตได้ดีกว่าปีก่อนๆ และคาดการณ์การเติบโตในปีนี้อยู่ที่ระดับ 3.5% โดยมาจากการฟื้นตัวของหลายภาคส่วน ทั้งการส่งออก สินค้าเกษตร และความเชื่อมั่นในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการผลักดันประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 และการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ซึ่งพร้อมจะเป็นประตูสู่ ASEAN อีกทั้งยังมีการปัดฝุ่นโครงการ EEC เพื่อให้ไทยเป็น hub กระจายสินค้าและการลงทุนมากยิ่งขึ้น

มุมมองการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยดร.สมประวิณ มันประเสริฐ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 

เศรษฐกิจไทยปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.3% โดยมีแรงขับเคลื่อนจาก 4 ด้านสำคัญ คือ การบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอานิสงส์จากหลายปัจจัย อาทิ รายได้เกษตรกรที่ฟื้นตัวหลังภัยแล้งคลี่คลาย การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ การปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ โครงการรถคันแรกที่จะทยอยสิ้นสุดลงซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อได้อีกส่วนหนึ่ง แรงขับเคลื่อนที่สอง คือ ความต่อเนื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การเสริมสภาพคล่องแก่เกษตรกรและ SME การอัดฉีดงบกลางปีเข้าสู่จังหวัดและกองทุนหมู่บ้าน รวมถึงความคืบหน้าของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และแผนโครงการการลงทุนในระยะยาว เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ส่วนแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในด้านที่ 3 คือ การพลิกกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อยของภาคส่งออก โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางด้านราคา และสุดท้ายคือ ภาคท่องเที่ยว ที่จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย

มุมมองการลงทุน โดยคุณศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด

ปี 2017 เป็นปีแห่งสินทรัพย์เสี่ยง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง โดยแนะนำให้ลงทุนในหุ้นรวม 63% และตราสารหนี้ 37% (ลงทุนในทองคำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น) เนื่องด้วยปัจจัยบวกหลัก มาจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งผลต่อเนื่องสู่ตลาดหุ้น 

พอร์ตการลงทุนแนะนำแบ่งออกเป็นการลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะตราสารหนี้ไทย 37% และการลงทุนในตลาดหุ้นรวม 63% แบ่งเป็น ตลาดหุ้นไทย 33% และตลาดหุ้นต่างประเทศ 30%

สำหรับตลาดหุ้นไทยแนะนำหุ้นในอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยบวกในประเทศ ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากแผนส่งเสริมของรัฐบาลที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมอาหารถูกทำให้เป็นอาหารสำหรับคนยุคใหม่ รวมไปถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่อย่างหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น    

สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศแนะนำตลาดหุ้น Emerging Markets 10% (Latin America, BRIC) และตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนา 20% (USA, Japan, Europe) เนื่องจากการเติบโตของตลาดสหรัฐอเมริกาที่ดีขึ้นจะเป็นตัวสนับสนุนให้เกิดการกระจายของสินเชื่อ และการที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นยังก่อให้เกิดโอกาสทางการลงทุนที่ดีอีกด้วย 

มุมมองการลงทุน โดยดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร สุดยอดนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า

ตามสถิติในอดีต วิกฤติเศรษฐกิจจะเกิดทุก 10 ปี (ปี 30 : วิกฤติ Black Monday / ปี 40 : วิกฤติต้มยำกุ้ง / ปี 50 : วิกฤติ Hamburger) ดังนั้น แนะนำให้นักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ โดยถือเงินสดไว้บ้างเพื่อให้มีเงินทุนเข้าลงทุนทันทีในช่วงที่ตลาดหุ้นเจอวิกฤติ และแนะนำให้กระจายการลงทุนในต่างประเทศที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง เช่น ตลาดในสหรัฐอเมริกา  ส่วนในมุมมองการลงทุนในหุ้นรายตัว นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นกับบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการเติบโตของรายได้ และมีปันผลดี โดยมองกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีค่า P/E ต่ำ และอาจต้องระวังเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพราะผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ในระยะยาวแล้ว ไทยอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนและลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ที่ทางกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ตั้งใจจัดขึ้นมาเป็นพิเศษประจำทุกปีเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการดูแลและบริหารความมั่งคั่งอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยรวบรวมข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจและการวิเคราะห์เจาะลึกที่ครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและเอเชีย ตลอดจนมุมมองการลงทุนทั่วโลกประจำปี 2017 จากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการลงทุนระดับแนวหน้าจากทั้งในและต่างประเทศ และส่งมอบประสบการณ์เอกสิทธิ์เหนือระดับที่เติมเต็มความพิเศษให้กับทุกด้านของชีวิต เพราะทุกความสำเร็จของชีวิตคือการได้ใช้ชีวิตอย่างที่ใจต้องการ

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ติดต่อ 0 2296 5566 

ลงทุนศาสตร์ - Investerest

บทความนี้เป็น Advertorial