สำหรับใครก็ตามที่ติดตามข่าวของบิตคอยน์จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมานั้นมีความขึ้นลงผันผวนอย่างมาก แต่ถ้าย้อนกลับไปดูกราฟราคา 5 ปีที่ผ่านมา แม้จะเหวี่ยงขนาดไหน มันก็ขึ้นมาแล้วกว่า 175% จึงไม่แปลกใจถ้าหลายคนจะมองว่ามันช่องทางการลงทุนอย่างหนึ่งของยุคปัจจุบัน (และอนาคต) ไปแล้ว

แต่ดูเหมือนไม่ว่าใครจะว่ายังไง นักลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคนหนึ่งอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่การลงทุนที่เขาจะเลือกใช้อยู่ดี

ในการประชุมบริษัท Berkshire Hathaway เมื่อปีก่อนบัฟเฟตต์ก็บอกว่าตัวเขาไม่รู้หรอกว่าบิตคอยน์จะไปทางไหนต่อ แต่ว่าสิ่งที่เขามั่นใจก็คือ ‘มันได้สร้างอะไรเลย’

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เคยซื้อหรือเป็นเจ้าของบิตคอยน์เลย

“ถ้าคุณบอกผมว่าคุณเป็นเจ้าของบิตคอยน์ทั้งโลกแล้วขายให้ผม $25 ผมก็ไม่เอานะ จะเอาไปทำอะไรล่ะ? ผมก็ต้องขายคืนให้คุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มันไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาเลย”

ตอนที่บัฟเฟตต์พูดในตอนนั้นราคาบิตคอยน์อยู่ที่ราว ๆ 38,000 เหรียญ ตอนที่เขียน (17/02/2023) มันร่วงลงมาอยู่ที่ราว ๆ 23,500 เหรียญ แต่ก็ขึ้นมาจากช่วงก่อนที่ 17,000 เหรียญในช่วงไม่กี่เดือนก่อนด้วย

ระหว่างที่เขาพูดในตอนนั้น บัฟเฟตต์เองก็ได้แชร์มุมมองสินทรัพย์สองอย่างที่เขาจะเขียนเช็คให้ทันทีเลยได้มีโอกาส

1. พื้นที่ทำการเกษตร

บิตคอยน์กับอุตสาหกรรมการเกษตรนั้นไม่ได้มีอะไรที่เหมือนกันเลย บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นมาในปี 2009 แต่มนุษย์เริ่มต้นอุตสาหกรรมการเกษตรมาตั้งแต่ 10,000 ปีก่อนแล้ว

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบัฟเฟตต์ถึงมองแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้เป็นนักลงทุนในสายเกษตรเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เขามองก็คือว่าถ้าเป็นเจ้าของพื้นที่ทำการเกษตร อย่างน้อย ๆ มันก็ยังจะสร้างผลผลิตอาหารขึ้นมาได้อยู่มากกว่า

“ถ้าคุณบอกว่าแลกกับดอกเบี้ย 1% ในพื้นที่การเกษตรทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา กับเงิน 25,000 ล้านเหรียญ ผมจะเขียนเช็คให้บ่ายนี้เลยนะ”

นั่นคือแนวคิดของบัฟเฟตต์ที่มองว่าบิตคอยน์นั้นไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาเลย แต่ถ้าเป็นพื้นที่การเกษตรก็ยังสร้างผลผลิตอยู่นั่นเอง

2. อะพาร์ตเมนต์

เขายังอธิบายต่อไปอีกว่า

“ถ้าคุณเสนอ 1% ของอะพาร์ตเมนต์ทั้งหมดในประเทศ และต้องการเงินอีก 25,000 ล้านเหรียญ ผมก็จะเขียนเช็คให้คุณอีกเช่นกัน มันง่าย ๆ แค่นั้นเลย”

ไม่ว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่หรือรุ่งเริงแค่ไหน คนก็ยังต้องการที่อยู่อาศัย และด้วยราคาบ้านที่แพงขึ้นจนคนส่วนใหญ่ไม่สามารถซื้อเป็นเจ้าของได้ด้วยซ้ำในเวลานี้ เพราะฉะนั้นอะพาร์ตเมนต์ให้เช่าจึงกลายเป็นทางเลือกเดียวสำหรับหลาย ๆ คน

เพราะฉะนั้นสินทรัพย์ทั้งสองอย่างนี้สำหรับบัฟเฟตต์แล้วมัน ‘ก่อให้เกิดอะไรบางอย่าง’ ขึ้นมาหลังจากการเข้าไปเป็นเจ้าของ อะพาร์ตเมนต์ก็สร้างรายได้จากค่าเช่า พื้นที่การเกษตรก็สร้างอาหารสำหรับคนในสังคม ส่วนบิตคอยน์นั้นไม่ได้สร้างอะไรเลยนั่นเอง

สำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่าอย่างบัฟเฟตต์แม้อาจจะมองเห็นว่าในอนาคตบิตคอยน์มีโอกาสจะราคาสูงขึ้น แต่มันก็มีความเสี่ยงที่ผันผวนมากเกินไป การลงทุนของบัฟเฟตต์ นั้นจะพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยตรงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้นการเลือกสินทรัพย์ที่สร้างอะไรบางอย่างที่มีคุณค่ากลับมาด้วยจึงเป็นทางเลือกที่มาก่อนเสมอ


อ้างอิง

MONEYWISE