“ใครว่าอ่านหนังสืออย่างเดียวแล้วเพียงพอ ประสบการณ์ต่างหากที่สอนให้คุณเติบโต” ชวนอ่าน 11 ข้อชวนคิดก่อนลงทุนหุ้น โดย โค้ชหนุ่ม - จักรพงษ์ เมษพันธุ์ เจ้าของเพจ Money Coach กับการบอกเล่าเรื่องราว ประสบการณ์ พร้อมแนวทางสร้างเงินล้านสำหรับคนรุ่นใหม่

1. เติมความรู้ให้เต็มก่อนเริ่มต้นลงทุน

โค้ชหนุ่มใช้เวลาประมาณ 2 ปีเต็มๆ ไปกับการกอบโกยความรู้เรื่องการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ หรือการเข้าครอสเรียนของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยยังไม่ได้นำเงินไปลงทุนแต่อย่างใด เป็นช่วงเวลาของการศึกษาเรียนรู้เพียงอย่างเดียวเพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมแล้วจริงๆ

2. หุ้น 3 ตัวแรก กับเงินต้น 5,000 บาท

หลังจากมีความรู้มาประมาณหนึ่งแล้ว โค้ชหนุ่มตัดสินใจที่จะเปิดบัญชีลงทุนด้วยเงิน 5,000 บาท และเลือกหุ้นลงทุนเพียง 3 ตัว ตามคอนเซ็ปต์ของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า คือเลือกหุ้นเอง และถือลงทุนระยะยาวคล้ายกับเป็นเจ้าของกิจการจริงๆ หากแต่เส้นทางในการลงทุนช่วงเริ่มต้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ทั้งใจที่จดจ่อไปกับการผันผวนของตลาดหุ้น ทั้งประสบการณ์การลงทุนที่มีไม่มากพอ ทำให้โค้ชหนุ่มต้องตัดสินใจขายหุ้นในท้ายที่สุด เหตุการณ์ครั้งนั้นจึงถูกนับได้ว่าเป็นประสบการณ์ด้านการลงทุนครั้งแรกในชีวิตของโค้ชหนุ่มที่จำไม่ลืม

3. “ประสบการณ์” คือหัวใจสำคัญของการลงทุน

มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะลงทุนในหุ้นเพื่อหวังจะได้ผลตอบแทนเยอะๆ ในช่วงเวลาอันสั้น จึงรีบตัดสินใจลงทุน หาทางลัดด้วยการฟังคนอื่นบอกต่อมาอีกทีว่า ต้องซื้อหุ้นตัวนั้น ซื้อหุ้นตัวนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่มีประสบการณ์ด้วยซ้ำ ดังนั้น หากคุณมีความสนใจในการลงทุนหุ้น ก็ควรที่จะสร้างประสบการณ์ทางด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ หรือเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่มีเงินน้อยๆ สะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะสามารถควบคุมตัวเองได้มากขึ้น รวมทั้งยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้นอีกด้วย

4. เริ่มฝึกตัวเองให้เป็นนักลงทุนอย่างแท้จริง

ในช่วงแรกๆ ของการเป็นนักลงทุนมือใหม่ ทุกคนคงต้องผ่านการนั่งเฝ้ากระดานหุ้นแบบไม่ไปไหน แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าเราจะเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทใดก็ตาม บริษัทนั้นๆ ย่อมมีผู้บริหารดูแลหุ้นแทนเราอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าเลือกหุ้นมาดีแล้ว ก็ใช้เพียงแค่ความอดทนในการรอคอยดูผลของการตัดสินใจของเราก็พอ

5. จงกล้า ในขณะที่คนอื่นกำลังกลัว

บางครั้งการลงทุนยังเกี่ยวข้องกับ “โชคชะตา” ดังนั้น ให้หาจังหวะการลงทุนให้ดี เพราะบางทีการเข้าซื้อในช่วงหุ้นตกๆ มันก็อาจจะกลายเป็นผลตอบแทนก้อนโตในอนาคตของคุณก็ได้ เช่นเดียวกับโค้ชหนุ่ม ที่อาศัยวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ปี 2008 กว้านซื้อหุ้น Blue Chip รอเศรษฐกิจฟื้นจนอัตราผลกำไรของหุ้นในพอร์ตโตขึ้นโดยประมาณ 3-4 เท่า

6. “การลงทุนคือแผนการ” เป็น Mindset ที่ทำให้นักลงทุนหลายคนกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน

หลายๆ คนอาจคิดว่า การลงทุน คือการนำเงินไปหยอดใส่ในสินทรัพย์ตัวหนึ่ง และปล่อยให้สินทรัพย์นั้นมันโตขึ้น แล้วก็จะรวย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เบื้องหลังของการลงทุนนั้นเต็มไปด้วยขั้นตอนและแผนการหลายๆ อย่าง ทั้งขั้นตอนการคัดเลือก ขั้นตอนการใส่เงินลงทุน ระยะเวลาการถือครอง การเตรียมแผนการรองรับเผื่อความไม่แน่นอน เป็นต้น

7. “ไม่รู้ ไม่ยุ่ง” ไม่ว่าอะไรก็ตาม

“ไม่รู้ ไม่ยุ่ง” ประโยคนี้คุ้นๆ มั้ยครับ? หากใครเคยได้อ่านแนวคิดทางการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) คุณจะได้รู้ว่า วอร์เรนจะไม่เลือกลงทุนในสิ่งที่เขาไม่มีความรู้เลย เช่นเดียวกับโค้ชหนุ่ม ที่ไม่ว่าหุ้นตัวไหนจะร้อนแรงจนนักลงทุนส่งแรงเชียร์ให้ซื้อ แต่ถ้าเป็นหุ้นตัวที่โค้ชหนุ่มไม่เคยศึกษามาก่อน ก็จะไม่เลือกลงทุนอย่างเด็ดขาดครับ

8. อย่าทำเงินต้นหายและทำความเข้าใจกับความเสี่ยง

ทุกๆ ครั้งก่อนลงทุน คุณต้องทำความเข้าใจกับความเสี่ยงเสมอ เพราะถ้ารู้ความเสี่ยง คุณก็จะสามารถปกป้องเงินต้นของคุณได้ รวมทั้งยังควบคุมตัวเองไม่ให้เดินทางไปถึงจุดที่ต้องเสี่ยงจนถึงขั้นเจ๊งได้อีกด้วย

9. นักลงทุนที่ฉลาด คือนักลงทุนที่รู้จักตัวเอง

ในโลกของการลงทุน คงเต็มไปด้วยนักลงทุนหลายระดับ ทั้งเก๋า ทั้งเซียน รวมไปถึงนักลงทุนที่เพิ่งเข้าวงการมาไม่นาน ซึ่งถ้าคุณคือคนที่เพิ่งเข้าสู่วงการลงทุนใหม่ๆ คุณไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปแข่งขันหรือสร้างสถิติแข่งกับใคร คุณแค่เพียงต้องรู้ว่าตัวเองอยู่จุดไหน มีความรู้แค่ไหน มีกำลังเท่าไร แล้วจะพอแค่ไหน จุดวัดสิ่งเหล่านี้ก็คือคุณสามารถนอนหลับลงได้ในทุกๆ วัน ไม่ใช่ว่าลงทุนไปด้วยเงินก้อนโต แล้วต้องนอนคิดทุกคืน แบบนี้คงเรียกไนักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จไม่ได้ครับ

10. “ผันผวน-เปลี่ยนแปลง-รวดเร็ว” คือสิ่งที่นักลงทุนต้องเจอ

ยิ่งในโลกปัจจุบันที่กำลังจะเข้าสู่ยุค Cashless หรือสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ นักลงทุนในยุคนี้ต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ที่จะเกิดขึ้น อย่างเช่น เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะถูกผนวกรวมกับสินทรัพย์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในความผันผวนและเปลี่ยนแปลงนี้ ยังคงมีสิ่งที่เหมือนเดิมคือ “แก่นของการลงทุน” เมื่อไรที่มีคนต้องการสินทรัพย์นั้นๆ ก็ยังคงเติบโต หลักการเดิมๆ ของการลงทุนจึงยังใช้ได้เสมอ

11. หนังสือ 3 เล่ม ที่ควรอ่านก่อนลงทุน

จากบทความนี้ ก็น่าจะพอสรุปข้อคิดได้ว่า การอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องอาศัยประสบการณ์เข้ามาช่วยสร้างความสำเร็จ แต่สุดท้ายแล้ว หนังสือ ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสร้างชีวิตให้กับนักลงทุนหลายๆ คน โดยหนังสือที่โค้ชหนุ่มแนะนำให้อ่านจะมีอยู่ 3 เล่มด้วยกันครับ ได้แก่ (1) The Intelligent Investor เขียนโดย Benjamin Graham, (2) ศาสตร์แห่งวอร์เรน บัฟเฟตต์ และ (3) เหนือกว่าวอลสตรีท เป็น 3 เล่มที่อ่านง่าย เหมาะสำหรับคนที่เข้าสู่โลกการลงทุนใหม่ๆ ครับ

สุดท้ายแล้ว การลงทุนคือสิ่งที่ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากบทเรียนในอดีต และปัจจัยใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคต ล้วนเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องขวนขวายอยู่เสมอ

รับชมรายการ: https://youtu.be/ciFfND6bENE