สำหรับคนที่อยากสร้างบ้าน หรืออยากแต่งบ้าน ‘บุญถาวร’ ก็มักเป็นที่แรกๆ ที่คนจะนึกถึง เพราะอยู่มานานพอจนคนจะจำชื่อได้แล้ว ซึ่งเป็นเวลากว่า 47 ปีแล้ว นับจากวันที่บุญถาวรเปิดกิจการ โดยคุณณวิวัฒน์ ทยานุวัฒน์ ในชื่อ ‘บริษัท บุญถาวรวัสดุภัณฑ์ จำกัด’ สู่เป้าหมาย ‘ศูนย์รวมวัสดุ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร’
ในตอนนี้ บุญถาวรขยายสาขาออกไปกว่า 50 สาขา ทั้งในรูปแบบร้านค้าปลีก และแฟรนไชส์ที่ร่วมทุนกับกลุ่ม SCG ซึ่งนอกจากในประเทศไทยแล้ว ยังมีเวียดนาม และกัมพูชา ทั้งยังเดินหน้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเรียบร้อย เรียกได้ว่าบุญถาวรที่เรารู้จักจะยิ่งเติบโตมากขึ้นไปอีก
โดยวันนี้ aomMONEY อยากพามาเจาะลึกธุรกิจแห่งนี้กัน
“ ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น”
สโลแกนที่สื่อความหมายของกลยุทธ์ธุรกิจบุญถาวรได้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงเริ่มต้นนั้น บุญถาวรเกิดขึ้น และเติบโตในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจจึงต้องเป็นผู้เดินไปหาลูกค้า ไม่ใช่รอให้ลูกค้ามาหาเพียงอย่างเดียว
บุญถาวรจึงเริ่มเดินหน้ากลยุทธ์ ‘บุญถาวร 4 มุมเมือง’ เพื่อกระจายตัวเข้าสู่ชุมชนในหลากหลายพื้นที่ โดยได้เริ่มเปิดสาขาใหม่ๆ เช่น ปิ่นเกล้า (2537) และบางนา (2538) ทั้งยังกระจายไปยังสี่ทิศในกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดสาขาไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ
ขณะเดียวกันก็ยังเปิดไลน์สินค้าใหม่ๆ ไปพร้อมกันด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เครื่องใช้ในห้องครัว ไปจนถึงวัสดุใหม่ๆ อย่างหินอ่อน และหินแกรนิต ที่นอกจากจะเน้นเรื่องการใช้งานที่ครอบคลุม ยังโฟกัสไปยังความสวยงาม เทรนด์ความชอบของลูกค้า และความคงทนในการใช้งานด้วย
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตที่เกิดขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต บุญถาวรเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆ ในกลุ่มธุรกิจที่นำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาบริหารธุรกิจ และส่วนงานต่างๆ เช่น
ระบบจัดการบัญชี Enterprise Resource Planning (ERP)
ระบบ E-Library Catalogue ที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพเสมือนจริงของสินค้า และการออกแบบห้องได้
โปรแกรมบริหารคลังสินค้า Warehouse Management System หรือ WMS เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่าจะได้รับสินค้าตรงตามกำหนด
ยกเครื่องกลยุทธ์การตลาด ผ่าน 3 ความแข็งแกร่งของบุญถาวร ที่ฝ่าความดุเดือดในสนามการแข่งขันมาได้
ในช่วงปี 2551 เป็นช่วงที่ธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ และของตกแต่งบ้านเกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งจากในและนอกประเทศ ผสมรวมกับสภาพเศรษฐกิจไทยที่ผันผวนอย่างหนัก ได้กลายเป็นโจทย์ให้ธุรกิจทั้งหมดในสนามแข่ง หรือกระทั่งบุญถาวรเอง ที่ต้องเอาตัวรอดได้ยังไม่พอ แต่ต้องได้ใจลูกค้าด้วย
เพื่อรักษาอันดับต้นๆ ของผู้นำในตลาดเอาไว้ ทางบุญถาวรจึงแก้เกมด้วยการยกเครื่อง ‘กลยุทธ์การตลาดใหม่’ โดยใช้ข้อมูลต่างๆ เช่น ตัวเลขสถิติ และเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์เพื่อดูความชอบของลูกค้า ในการตีโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้แตก
1. สร้างภาพลักษณ์การตลาดใหม่ที่ทันสมัย และเข้าถึงง่ายกว่าในอดีต เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้แม้จะมีคู่แข่งมากมาย ตั้งแต่การใช้ชื่อภาษาไทยที่มีเอกลักษณ์ ไปจนถึงตัวสินค้าที่อิงตามเทรนด์ อย่าง Modern Style หรือ Minimalism
2. เริ่มใช้แนวคิด Customer Loyalty อย่างระบบบัตรสมาชิก เพื่อรักษาฐานลูกค้าด้วยการดึงดูดโดยสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับสมาชิกบุญถาวรโดยเฉพาะ
3. ทุ่มเทพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ให้มีทักษะความสามารถในหน้าที่ของตนสูงขึ้น เพื่อยกระดับภาพรวมของแบรนด์ในทุกมิติ ตั้งแต่การออกสินค้าใหม่ๆ ไปจนถึงการให้บริการลูกค้าที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง ถามอะไรตอบได้ ไม่ต้องเสิร์ชข้อมูลเองเพิ่ม
บุญถาวรยังได้เพิ่มช่องทางการขายมากมาย เพื่อตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น โดยพัฒนารูปแบบการขายแบบ Omni Channel ด้วยการเปิดตัวร้านค้าออฟฟิเชียลบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชต่างๆ เช่น Shopee Tiktok และ Lazada โดยมีสมาชิกในเครือ ‘บุญถาวร แฟมิลี่’ มากกว่า 1,000,000 ราย
แต่ก็ยังไม่ทิ้งการขายแบบออฟไลน์ที่หน้าร้านสาขา โดยยังทุ่มเทพัฒนาส่วนการขายต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อของแต่งบ้าน
ครอบคลุมทุกความต้องการเรื่อง ‘บ้าน’
ปัจจุบันแบรนด์ในเครือ บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ‘BOON’ จะแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม
1. ธุรกิจจัดหาสินค้า
1. บริษัท เวิลด์เซรามิคเซ็นเตอร์ จำกัด ‘WCC’: จัดหา และนำเข้ากระเบื้อง
2. บริษัท ครีเอชั่น เฟอร์นิเจอร์ อินดัสตรี จำกัด ‘CFI’: ผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องครัว
3. บริษัท บุญถาวร ซอร์สซิ่ง จำกัด ‘BSC’: จัดหา และนำเข้าสุขภัณฑ์
2. ธุรกิจค้าปลีก
1. บริษัท บุญถาวร ไลท์ติ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด ‘BLC’: นำเข้า และจำหน่ายโคมไฟ
2. บริษัท บุญถาวร เซ็นทรัลโฮม (โคราช) จำกัด ‘BTKR’: ร้าน SCG Home
3. บริษัท เอสซีจี – บุญถาวร โฮลดิ้ง จำกัด ‘SCG-BTV’: ดูแลแบรนด์ SCG Home ในไทย เวียดนาม และกัมพูชา
4. บริษัท บุญถาวร ไลฟ์สไตล์ เฟอร์นิเจอร์ จำกัด ‘BLF’: นำเข้า และจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์
5. บริษัท บุญถาวร อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ‘BIT’: จำหน่ายสินค้าแก่ผู้ประกอบการ (B2B)
3. ธุรกิจสนับสนุน และอื่นๆ
1. บริษัท บุญถาวรดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ‘BTD’: รับเหมาก่อสร้างร้านค้าปลีก
2. บริษัท คันทรี โร๊ด ทรานสปอร์ต จำกัด ‘CRT’: บริการขนส่งภายในกลุ่มธุรกิจ
โดยในปัจจุบันบุญถาวรมีสินค้ากว่า 90,000 รายการที่จัดจำหน่ายทั้งภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ผลิตเอง และว่าจ้างผู้ผลิตภายนอก ไปจนถึงสินค้าภายใต้แบรนด์อื่นๆ ในเครือ โดยรายได้จากการขายสินค้าต่างๆ และการให้บริการเป็นสัดส่วนกว่า 97.5% ของรายได้ทั้งหมด
จากรายงานการสำรวจกลุ่มธุรกิจ วัสดุ และของแต่งบ้านของ Euromonitor ที่ปรึกษาด้านการตลาดอิสระ พบว่า ในปี 2565 ยอดขายกระเบื้องของบุญถาวรครองสัดส่วนในตลาด 22.1% และยอดขายสุขภัณฑ์ครองสัดส่วนในตลาด 33.51%
รายได้ และผลกำไรของ บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ปี 2564 รายได้ 11,554 ล้านบาท กำไร 204 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 13,048 ล้านบาท กำไร 404 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2566 รายได้ 10,339 ล้านบาท กำไร 214 ล้านบาท
เดินหน้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เสริมแกร่งธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ‘ครบเครื่องเรื่องบ้าน’
บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BOON ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น
การเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ บุญถาวรมองว่า จะเป็นการเสริมศักยภาพ และความแข็งแกร่งแก่การดำเนินธุรกิจ ภายใต้แนวคิด ‘Ideas Come Alive’ สู่วิสัยทัศน์ ‘Live Good Ecosystem’ มุ่งพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านสินค้า และนวัตกรรมการอยู่อาศัย เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้น และสังคมที่ยั่งยืน